คุก3ปีม็อบคาราวานคนจนปิดเนชั่นฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 3 ปี ม็อบคาราวานคนจน ปิดล้อมตึกเนชั่นฯ
ศาลอุทธรณ์ นัดอ่านคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายคำตา แคนบุญจันทร์ แกนนำคาราวานคนจน กับพวก เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดต่อเสรีภาพ, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 จากกรณีเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2549 จำเลยทั้ง 6 นำกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อม อาคารเนชั่น ทาวเวอร์ เพื่อเรียกร้องให้ผู้บริหารนำตัวผู้สื่อข่าวที่เขียนบทความใน หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 24 มี.ค.49 มาชี้แจงเมื่อเห็นว่ามีเนื้อหาที่เป็นการหมิ่นเบื้องสูง จนผู้บริหารต้องนำผู้สื่อข่าวมาพบและทำข้อตกลงร่วมกัน จนกลุ่มผู้ชุมนุมพอใจและสลายตัวไป
ในคดีนี้ ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้ง 6 เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ นอกจากนี้ จำเลยทั้ง 6 ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาด้วยเครื่องขยายเสียง ซึ่งทนายจำเลยได้ยื่นหลักทรัยพ์ขอประกันตัวและต่อสู้ในชั้นอุทรณ์
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากจำเลยกระทำผิดจริงสอดคล้องตามคำเบิกความและพยานหลักฐาน แต่การชุมนุมปิดล้อมบริษัทเอกชน เป็นการละเมิดสิทธิ์
ทั้งนี้ นายคำตา จำเลยที่ 1 เสียชีวิต ศาลจึงจำหน่ายคดี และในวันนี้มีเพียง นายธนวิชญ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา จำเลยที่ 4 มาฟังคำพิพากษาเท่านั้น ภายหลังการพิจารณาคดี ทนายจำเลยเตรียมหลักทรัพย์ 1.5 แสนบาท ยื่นขอประกันตัวต่อสู้คดีต่อไป