แชร์ว่อน! พิษด้วงก้นกระดก ภาพข่าวแรงเกินจริง

(27 มี.ค.) มีรายงานว่ากระแสข่าวเกี่ยวกับพิษของ "ด้วงก้นกระดก" ถูกนำเสนอออกสื่ออย่างแพร่หลาย ถึงความรุนแรงที่ทำร้ายเนื้อเยื่อให้พุพองสยดสยองจนเสียโฉม และอาจทำให้ถึงขั้นตาบอดได้ ทั้งนี้ได้มีการเผยแพร่ภาพที่อ้างว่าเป็นพิษของแมลงชนิดนี้ ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก

ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก หมอ แมว ซึ่งเป็นเพจที่นำเสนอเกี่ยวกับความรู้ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ได้โพสต์ชี้แจงว่า หลายคนอ่านข่าวอาจจะตกใจเรื่องด้วงก้นกระดกแล้วแห่กันไปทำลาย จริงๆแล้วการอักเสบไม่ได้รุนแรงน่ากลัวแบบในข่าว ส่วนมากเป็นแผลอักเสบเล็กน้อยเท่านั้น ข้อควรระวังเมื่อเจอคือ แมลงชนิดนี้มาตามไฟ อย่าบี้เพราะสารพิษอยู่ในร่างกายแมลง ให้จับไปปล่อยหรือเอาเทปกาวแปะ ส่วนตัวที่ตายแล้วก็ยังปล่อยพิษได้ และหากเข้าตา จะเรียกชื่อโรคว่า ตาอักเสบไนรูบี ถ้าเข้าตาให้ล้างมากๆ และภาพที่เสนอข่าวไปนั้นรุนแรงเกินจริง

ทั้งนี้ ในเฟซบุ๊กดังกล่าว มีผู้ที่เคยถูกพิษของด้วงก้นกระดกหลายราย มาแสดงความคิดเห็น ยืนยันว่า พิษไม่ได้ร้ายแรงสยดสยอง เพียงแค่เป็นแผลอักเสบเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รักษาการ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยตั้งแต่เมื่อปี 2555 ว่า สำหรับพิษด้วงก้นกระดก ไม่ควรตื่นตระหนกตกใจ แต่ควรระวังว่าอย่าไปบี้ หรือขยี้เวลาที่ด้วงก้นกระดกมาเกาะตามผิวหนัง เพียงปัดออกก็พอ ควรระวังแมลงอาจจะไปอยู่ในเสื้อผ้า ก่อนสวมใส่ควรสลัดเสื้อผ้าด้วย ประชาชนอาจจะตกใจเพราะเพราะด้วงก้นกระดกมีสารพิษอยู่ทั่วตัว หากถูกผิวหนังจะเกิดผื่นอักเสบ แสบร้อน พุพอง เป็นหนอง และอาจติดเชื้อได้ คนไม่รู้อาจจะคิดว่าเป็นงูสวัด

ความจริงด้วงก้นกระดกตัวเล็ก มีสารพิษน้อยมากประมาณ 0.025 ของน้ำหนักตัว จึงไม่ได้เป็นอันตรายอะไรมาก การที่มีผู้ขนานนามแมลงชนิดนี้ว่า "แมลงน้ำกรด" อาจสร้างความตื่นตระหนกได้ ที่มาของชื่อคงเป็นเพราะสารพิษในตัวแมลงซึ่งเมื่อสัมผัสจะทำให้เกิดการระคายเคืองรุนแรง แต่ความจริงไม่ได้รุนแรงเหมือนน้ำกรด