“ตั๊ก” ควง “เจ้าสัวบุญชัย” ออกงานคู่ โต้อัพรูปให้เช็คแม่ 50 ล.บน IG เหน็บคู่กรณี

กลายเป็นประเด็นไปซะแล้วสำหรับสาว "ตั๊ก บงกช" ที่ก่อนหน้านี้เข้าตัวโพสต์รูปให้เช็ค "แม่เล็ก ธนาภา ชีพนุรัตน์" เป็นจำนวน 50 ล้านบาทบนอินสตาแกรมเพราะมีกระแสออกมาว่าทางบ้าน "เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล" สามีของ "ตั๊ก" ไม่ยอมให้แม่ของ "ตั๊ก" มาที่บ้านพร้อมกับไม่ให้เยี่ยมหลานชายอีกด้วย ทั้งนี้พอดีได้เจอ "ตั๊ก" ควง "เจ้าสัวบุญชัย" มาร่วมงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยมครั้งที่ 22 ประจำปี 2556 ของ "ชมรมวิจารณ์บันเทิง" ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต ทั้งคู่ก็เลยชี้แจงประเด็นนี้ให้ฟังว่า

"ตั๊ก" : วันนี้ชวนออกมาเป็นเพื่อนกัน เหมือนเราตัวติดกันไปแล้วค่ะ ไปไหนก็อยากไปด้วยกัน
"เจ้าสัวบุญชัย" : ก็เห็นความตั้งใจของตั๊กแล้วก็อยากจะให้กำลังใจเขา ที่คณะกรรมการให้รางวัลเขานี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในรอบปีนี้ครับ ส่วนจะให้ทำเรื่องต่อไปไหมนี่ก็กำลังดูๆ อยู่ครับ ได้รางวัลทั้งทีก็ต้องไฟเขียวให้ทำต่ออยู่แล้วครับ

เห็นปีหน้าจะมีภาพยนตร์ที่ต้องเล่นบู๊ด้วยเจ้าสัวยอมให้เล่นใช่ไหม
"เจ้าสัวบุญชัย" : ครับ (เป็นห่วงเขาไหม) อันนี้ก็ต้องเตรียมตัวไว้ครับ (ต้องขอเรานานไหม) ไม่ได้ขอหรอกครับ เขาสั่งเลย(หัวเราะ)
"ตั๊ก" : คือเขาเป็นคนชอบดูหนังเหมือนกันด้วยค่ะ ก็เลยอยากเห็นหนังไทยของเราก้าวหน้าไปอีก

เรื่องบริษัทที่จะทำร่วมกันไปถึงไหนแล้ว
"ตั๊ก" : เรายังไม่ทำบริษัทนะคะ ถ้าเราจะทำก็จะทำหนังเลยค่ะ ตอนนี้จะให้ตัวหนังไปอยู่เครือไหนก็ยังไม่ได้คิดไว้เลยยังตอบไม่ได้ค่ะ ถ้ามีอะไรคืบหน้ายังไงตั๊กจะเชิญทุกๆ ท่านไปด้วยค่ะ

ตั้งแต่ท้องน้องเราแทบไม่ได้ออกงานมาประมาณกี่เดือนแล้ว
"ตั๊ก" : ประมาณ 6 เดือนแล้วค่ะ ก็ติดลูกทั้งคู่เพียงแต่ทางพี่ใหญ่เขาต้องทำงาน
"เจ้าสัวบุญชัย" : เราเลยใช้วิธีผลัดกันดูครับ ผมดูผลัดเช้า

ในอินสตาแกรมตั๊กเห็นเจ้าสัวช่วยเลี้ยงน้องตลอดเลย
"เจ้าสัวบุญชัย" : ช่วยเลี้ยงช่วงเช้าครับ เขาเป็นเด็กน่ารัก นิ่งๆ เข้ากับพี่ๆ ได้ เหมือนเขาพยายามศึกษาทุกอย่างขนาดยังเล็กอยู่เลย (หลงลูกจนลืมตั๊กหรือเปล่า)
"ตั๊ก" : (หัวเราะ) ยังไม่ลืมค่ะ ทุกวันนี้เราอยู่ด้วยกันตลอดเพียงแต่เขาไปทำงานแล้วตั๊กอยู่กับลูก

พอมีลูกแล้วทำให้เราโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นหรือเปล่า
"ตั๊ก" : ความซ่าจะน้อยลงเพราะเรารู้สึกว่าเรามีลูก 1 คนแล้วนะ เวลามองใครมันก็ไม่ใช่แล้ว อารมณ์อยากเที่ยวมันไม่ค่อยมีในหัวเลย อาจจะเป็นเพราะเราเตรียมตัวเป็นแม่ไปแล้ว เราเห็นหน้าเขาเราก็รักเขา เราเลี้ยงเขาเราก็รักเขา ทำให้เรารู้สึกอยากเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเขา

เลี้ยงง่ายหรือเปล่า
"ตั๊ก" : เขาก็เลี้ยงง่ายนะคะ แต่เวลาป่วยเขาจะชอบร้อง ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ เขาจะไม่ร้อง เขาเป็นเด็กที่พัฒนาเร็วมาก ตอนนี้ 6 เดือนแล้วก็เริ่มเอื้อมมืออยากถืออยากจับอยากคว้าแล้วค่ะ

แบบนี้อยากมีคนที่ 2 ต่อไหม
"ตั๊ก" : คงไม่ค่ะ เพราะว่าพอลูกโตเราก็อยากจะไปเที่ยวรอบโลกกัน
"เจ้าสัวบุญชัย" : ตอนนี้อยากให้ตั๊กเขามีเวลาเตรียมตัวทำงานมากกว่าครับ

เห็นว่าเราไปเรียนสาขาพุทธศาสตร์ที่ ม.ธรรมกาย เราสนใจอะไรในด้านนี้
"ตั๊ก" : จริงๆ แล้วตั๊กทำบุญก็ศึกษาเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เราอยากเรียนรู้ให้ลึกซึ้ง บ้างครั้งยิ่งโตเราก็ยิ่งเลิกคิดอะไรไม่ค่อยได้ เราปล่อยวางไม่ได้ เราก็เลยอยากกลับไปคิดแบบเด็กๆ ตั๊กก็เลยอยากเรียนเกี่ยวกับพุทธศาสนาจะได้ปลงได้เร็วๆ อะไรที่มันยากก็จะได้เข้าใจมันได้ง่ายขึ้นด้วยการปลงค่ะ (เรียนทางธรรมล้วนๆ) ใช่ค่ะ เรียนและปฏิบัติด้วยค่ะ จริงๆ ก็เรียนไม่ยากเพราะเรียนที่บ้าน เราก็ไปเอาข้อสอบมาเตรียมตำราค่ะ
"เจ้าสัวบุญชัย" : ส่วนตัวผมยังไม่มีเวลามาเรียนแต่ช่วยเป็นไกด์ให้ได้บ้างครับ แต่ก็มีปฏิบัติสมาธิที่บริษัทอาทิตย์ละ 3 วันและส่วนตัวก็ไปวัดบ่อยอยู่แล้วครับ

แต่ได้ยินว่าเราศึกษาเรื่องโบราณคดีไว้ด้วย
"ตั๊ก" : ในอนาคตค่ะ คือปรึกษากับพี่ใหญ่เอาไว้แล้วว่าอยากเรียนโบราณคดี ยิ่งเวลาผ่านไปเราก็ยิ่งอยากทำหนังประวัติศาสตร์ให้เด็กรุ่นใหม่ๆ เข้าใจกันมากขึ้น

เรื่องภาพในอินสตาแกรมที่เป็นเช็คให้แม่ 50 ล้าน อันนี้โอนให้แม่เราใช่ไหม
"ตั๊ก" : ก็ตามอินสตาแกรมเลยค่ะ ตั๊กให้คุณแม่ค่ะ (เป็นการโพสต์โต้ใครหรือเปล่าเพราะเห็นเขียนว่ามีคนว่าเรา) ก็ตามที่เขียนเลยค่ะ พอดีคุณแม่บอกมีนักข่าวมาถาม จริงๆ ตัวตั๊กเองก็มีนักข่าวโทรมาถามเรื่องที่ทางพี่ใหญ่ไม่ให้คุณแม่มาบ้านซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลยค่ะ แรกๆ เราก็รู้สึกโกรธนะ แต่มันไม่เป็นความจริง
"เจ้าสัวบุญชัย" : ทุกวันนี้ผมยังไปรพ.เพื่อเอายามาให้คุณแม่เขาได้ทานอยู่เลยเพื่อสุขภาพเขาจะได้แข็งแรง ดังนั้นตัดเรื่องนั้นไปได้เลยครับ

พอเรื่องเกิดขึ้นเราก็เลยเอาเช็คให้แม่ใช่ไหม
"ตั๊ก" : ไม่ใช่ค่ะ จริง ตั๊กอยากให้แม่ก่อนหน้านี้ ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี
"เจ้าสัวบุญชัย" : ผมคิดว่าบ้านเมืองมันยุ่งพอแล้ว อีกอย่างครอบครัวเราก็เล็กๆ มันก็คงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเยอะ ใครจะเชื่อยังไงก็เชื่อไปเถอะ เรามีแต่ความจริงใจที่อยากจะทำงานดีให้สังคม ตั๊กเขาก็อยากจะทำงานเพื่อสังคม ตัวเขาเองก็ช่วยผมในหลายๆ เรื่อง ใครจะคิดยังไงก็แล้วแต่เขาเลยครับ นานาจิตตัง (เราให้กำลังใจตั๊กตลอด) ใช่ครับ เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เขายังมีไฟและยังมีโอกาสที่จะทำสิ่งดีๆ ให้วงการภาพยนตร์และสังคมได้อีกเยอะ อีกอย่างคือผมภูมิใจมากตรงทุกที่ที่ผมไปเพราะผมเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยศิลปกร ก็มีอยู่วันหนึ่งที่ผมเข้าไปแล้วทั้งสภาเขาบอกว่าเราขอให้ทุกคนปรบมือให้คุณตั๊กหน่อยเพราะเขาชื่นชมที่คุณตั๊กรักในหลวง อีกที่หนึ่งที่สำนักงานทรัพย์สินเขาก็บอกว่าขอปรบมือให้คุณตั๊กหน่อย ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจเขามาก สิ่งเหล่านี่มันน่าพูดมากกว่าเรื่องทะเลาะกับคนโน้นคนนี้นะครับ สังคมข่าวแบบนี้มันเยอะพอแล้ว