หนุ่มหล่อแชทลวงสาว เสียตัวสูญเงิน โผชื่อมีเป็นร้อย

เมื่อวานนี้ (2 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายศิวรุฒน์ ศรีหริ่ง อายุ 27 ปี หนุ่มหน้าตาดีชาว จ.สกลนคร หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานีที่ 95/2557 ฐานวิ่งราวกรรโชกทรัพย์ ก่อเหตุแชทล่อลวงเหยื่อสาวนับสิบคนให้ตกหลุมพราง ก่อนจะขโมยทรัพย์สินไปอย่างช่ำชอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา เหยื่อผู้เสียหายเป็นครู กศน. ชื่อว่า น.ส.ฟ้า (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ถูกหนุ่มแชทคุยอ้างว่าทำงานเป็นวิศวกร อยากมีเพื่อนคุย จึงคุยตีสนิทกันเรื่อยมา จนกระทั่งเหยื่อหลงเชื่อว่า นายศิวรุฒน์ เป็นวิศวกร ฐานะดี ตามที่กล่าวอ้าง จึงยอมไปทานข้าวและเที่ยวกัน ก่อนจะจบลงที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกลางเมืองอุดรธานี

ต่อมา เมื่อเหยื่อสาวตื่นขึ้นมาก็พบว่าทรัพย์สินของตัวเองสูญหายไป เงินสด 10,000 บาท โทรศัพท์ไอโฟน โทรศัพท์แบล็คเบอร์รี่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และสร้อยคอทองคำ 2 บาท ซึ่งหลังจากก่อเหตุ นายศิวรุฒน์ ได้ทำลายซิมการ์ดโทรศัพท์ เพื่อตัดขาดจากติดต่อกับเหยื่อที่ก่อเหตุไปแล้ว และไปล่อลวงเหยื่อสาวรายอื่นๆ ต่อไป

ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้แกะรอยตามหาเบาะแสของคนร้าย พร้อมกับขอศาลอนุมัติออกหมายจับเอาไว้ก่อน จนกระทั่งทราบความเคลื่อนไหวของ นายศิวรุฒน์ อยู่ที่กรุงเทพฯ จึงได้ตามมาสืบสวน เมื่อแน่ใจว่าคือผู้ต้องหา จึงได้แสดงตัวจับกุมกลางห้างย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ขณะกำลังล่อลวงเหยื่อสาวรายอื่นอยู่

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายศิวรุฒน์ ยอมให้รับสารภาพแต่โดยดีว่า เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง มีเหยื่อมากกว่า 20 ราย ก่อนหน้านี้เป็นเพียงพนักงานบริษัททั่วไป แต่ตกงานเพราะถูกไล่ออก อีกทั้งยังติดหนี้พนันฟุตบอลนับแสนบาท จึงหาช่องทางหาเงิน ปลอมประวัติตัวเองให้ดูดี แชทคุยกับเหยื่อหญิงสาว ใช้คารมหลอกให้ตายใจ ก่อนจะล่อลวงไปร่วมหลับนอนด้วยและชิงทรัพย์สินของเหยื่อไป

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นห้องพักของ นายศิวรุฒน์ ย่านรัชดาภิเษก พบโทรศัพท์หลายรุ่นกว่า 20 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ผู้หญิงจำนวนมาก พร้อมกับบัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตนับร้อยใบ อีกทั้งยังพบรายชื่อเหยื่อหญิงสาวอีกกว่า 100 คน ที่เตรียมจะก่อเหตุ ส่วนเหยื่อสาวที่ถูกล่อลวงส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-35 ปี แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครกล้าเข้าแจ้งความ