ปชป.จี้นายกฯดูบึ้มใต้สร้างเชื่อมั่น-ห่วง2ม็อบท้าวัดมวลชน

'เจะอามิง' อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ จี้นายกฯ ลงใต้ สร้างความเชื่อมั่น ด้าน 'องอาจ' ห่วง 2 ม็อบ นัดชุมนุมใหญ่วัดมวลชน ชี้ ไม่ใช่ทางออกประเทศ จี้ นายกฯ ดูลดเผชิญหน้า และรับการตรวจสอบ ปมย้าย 'ถวิล'

นายเจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า แม้จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นรายวัน แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา ทั้งที่ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากนโยบายการบริหารประเทศที่ผิดพลาดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบ โดยการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลใส่ใจปัญหาของประชาชนจริง ขณะเดียวกัน ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดติดต่อกันในช่วงนี้ อาจเป็นเพราะฝ่ายที่ก่อเหตุ กำลังทวงถามข้อตกลงที่ทาง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่งคงแห่งชาติ หรือ สมช. ได้ไปตกลงไว้หรือไม่

นอกจากนี้ นายเจะอามิง เรียกร้องให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการ สมช. ใช้โอกาสหลังจากได้รับตำแหน่งคืน เร่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่า กรอบแนวคิดของ นายถวิล จะสามารถดูแลประชาชนพื้นที่ภาคใต้ได้

ปชป. ห่วง 2 ม็อบวัดมวลชน ชี้ ไม่ใช่ทางออก

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ออกมาประกาศ ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดวันวินิจฉัยสถานภาพ นายกรัฐมนตรี วันใด จะนัดมวลชนคนเสื้อแดงออกมาแสดงพลังจำนวนมาก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ กลุ่ม กปปส. ระดมมวลชนออกมาเช่นกัน แล้วตัดสินหากใครมีจำนวนมากกว่าถือเป็นผู้ชนะนั้น เป็นเพียงความพยายามท้าทาย และไม่ใช่ทางออกของการแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ เห็นว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องควรหาทางออกร่วมกัน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอำนาจมากที่สุด ที่ต้องรับฟังทางออกจากประชาชน มากกว่าความพยายามในการรักษาอำนาจ และต้องยอมรับในการตรวจสอบ ของกระบวนการยุติธรรม รวมถึงยอมรับในคำตัดสิน นอกจากนี้ ต้องยึดแนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหา โดยนายกรัฐมนตรี ต้องหาแนวทางการป้องกัน ระงับยับยั้งความรุนแรงในการเผชิญหน้ากันของกลุ่มที่มีความเห็นต่าง

 

องอาจ จี้ นายกฯ รับการตรวจสอบ ปมย้าย ถวิล

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงยุติธรรม ออกมาระบุว่า การดำเนินการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการโยกย้าย
นายถวิล เปลี่ยนศรี เป็นการดำเนินการตามอำนาจ โดยเป็นไปตามข้อยกเว้นในมาตรา 268 นั้น ไม่เป็นความจริง และเป็นความพยายามในการสร้างความสับสน เพราะในคำวินิจฉัยของศาลปกครอง ยืนยันชัดเจนแล้วว่า นายกรัฐมนตรี ดำเนินการไม่ถูกต้อง ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีอำนาจในการวินิจฉัยคำร้องของ ส.ว. ที่ได้ยื่นให้วินิจฉัยสถานภาพของนายกรัฐมนตรี ว่า กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ กรณีการแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล หรือไม่

ทั้งนี้เห็นว่า นายกรัฐมนตรี ควรต่อสู้คดีด้วยเนื้อหาสาระมากกว่าทำลายน้ำหนักของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มี
ใครนำรัฐธรรมนูญ มาบังคับนายกรัฐมนตรีได้ หากไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะยิ่งชี้ให้เห็นว่า นายก
รัฐมนตรี กระทำการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญตามที่ถูกกล่าวหาปชป.จี้ขรก.ตรวจสอบงบ ปี 57หวั่นโกงช่วงสุญญากาศ

 

ปชป. จี้ ขรก.ตรวจสอบงบปี57หวั่นโกงช่วงสุญญากาศ

นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตั้งข้อสังเกตถึง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ว่า มีการตั้งประมาณถึง 2.5 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบลงทุน 5 แสนล้านบาท ดังนั้น ในภาวะสุญญากาศทางการเมือง จึงขอเรียกร้องข้าราชการเข้ามาตรวจสอบ เพราะอาจมีบุคคลที่อาจเข้ามาหากินกับงบประมาณเหล่านี้ เพราะมีผู้รับเหมาหลายรายในโครงการ ซึ่งมีการระบุว่า มีความต้องการล็อกสเปก เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ นำบริษัทของตัวเองเข้ามารับงาน อ้างความเป็นคนของรัฐมนตรี บางรายเรียกหัวคิว 30-35 เปอร์เซ็นต์ และฮั้วโครงการกินส่วนตัว 5 เปอร์เซ็นต์ โดยให้จ่ายก่อน โครงการมาทีหลัง ซึ่งโครงการไหนฮั้วไม่ได้ก็ย้ายโครงการ และจาก 7 บริษัทที่ปรึกษา มี 1 บริษัทที่ไม่ยินยอมให้กับเด็กรัฐมนตรี จึงทำให้ข่าวนี้รั่วออกมา

ทั้งนี้ กระทรวงที่มีความวุ่นวายมากสุด คือ กระทรวงคมนาคม ที่มีงบลงทุนมากถึง 1.4 แสนล้านบาท

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ::::

โจรใต้บึ้ม7-11ตึกกศน.เผาโกดังสินค้าเมืองยะลา
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=528875