สุรพงษ์ถกผบ.ทัพสุเทพตั้งรัฏฐาธิปัตย์ผิด-USแนะเจรจา
รมว.ต่างประเทศ แจงสหรัฐ 'สุเทพ' ตั้งรัฏฐาธิปัตย์ผิด เตรียมทำหนังสือชี้แจงทูตทุกประเทศ จี้ 'อภิสิทธิ์ - ปชป.' สู้ตามระบอบประชาธิปไตย ปัดดึงต่างประเทศจุ้นคดีแดงปี 53 ขณะที่ ศอ.รส. แถลง สุเทพ ปราศรัยรัฏฐาธิปัตย์ มีเจตนาล้มล้างการปกครอง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการเข้าหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี กับ นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และ นางคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่กระทรวงกลาโหม ว่าเป็นการมารับฟังสถานการณ์ทางการเมืองไทย ซึ่งตนเองได้อธิบายถึงท่าทีของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ประกาศจะยึดอำนาจนายกรัฐมนตรี และตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์โดยชัดเจนว่าเป็นกบฏ พร้อมกันนี้ จะทำหนังสือไปส่งไปยังสถานทูตทุกประเทศในไทย ให้รับทราบอีกด้วย อีกทั้งยังฝากไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และบุคคลในพรรค ว่าควรหันหน้าเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ไม่ควรสนับสนุนแนวทางของ นายสุเทพ
ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อความมั่นคง จึงเตรียมประชุม ศอ.รส. ว่าจะดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ต่อไปอย่างไร ส่วนการยื่นร้องคดีสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ไอซีซี ขณะนี้ ได้ยื่นเรื่องไปแล้ว และอยู่ระหว่างการรอคำตอบ พร้อมยืนยันว่า ยังไม่ได้ดึงองค์กรการต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในไทยแต่อย่างใด
ศอ.รส.เร่งสอบสุเทพรัฏฐาธิปัตย์ล้มล้างปค.
นางสาวสิริมา สุนาวิน คณะทำงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. แถลงภายหลังการประชุม ว่า ศอ.รส. ได้พิจารณาถ้อยคำการปราศรัยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ประกาศบนเวทีการชุมนุมเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปกครองในรูปแบบรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่ง ศอ.รส. เห็นว่า นายสุเทพ และพวกมีเจตนากระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 จึงได้กำชับให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำเอาถ้อยคำและพฤติการณ์ของ นายสุเทพ และแกนนำคนอื่น ๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานเพื่อเร่งรัดในการดำเนินคดีกับ นายสุเทพ และแกนนำรวม 58 คน ที่มีความผิดทางอาญาต่อไป
นอกจากนี้ ศอ.รส. ยังกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ขณะที่กำลังลาดตระเวนบริเวณ
ซอยลิขิต ใกล้กับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม คปท. ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้น แนววิถีกระสุนเป็นการยิงมา
จากแนวบังเกอร์ของกลุ่ม คปท.