สธ.แนะระวังอันตรายพื้นที่อับเสี่ยงถึงชีวิต
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แนะการทำงานในพื้นที่อับอากาศ เสี่ยงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์คนงานเสียชีวิต 4 คน ในบ่อน้ำ บริเวณห้องแถว ต.มาบยาพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง หลังลงไปทำความสะอาดและสูบน้ำเน่าขึ้นจากบ่อ เมื่อวานนี้ นั้น ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ต้องออกมาประกาศเตือนประชาชนถึงอันตรายของการทำงานในพื้นที่อับอากาศ เนื่องจากการทำงานในพื้นที่อับอากาศ มีความเสี่ยงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตสูง ชี้ในรอบ 10 ปี มีผู้ได้รับอันตราย จากการทำงานในที่อับอากาศถึง 32 ราย ในจำนวนนี้ เสียชีวิต 28 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากการสูดก๊าซไข่เน่า และการขาดอากาศหายใจ ทำให้เสียชีวิตสูง ย้ำเตือนหากพบน้ำในบ่อ มีสีดำเข้ม แต่ไม่มีกลิ่น ขอให้ใช้ไม้กวนน้ำในบ่อให้กลิ่นโชยขึ้นมาก่อน หากมีกลิ่นคล้ายไข่เน่าโชยขึ้นมา อย่าลงไปเด็ดขาด
น.พ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเสียชีวิตที่อับอากาศที่พบในประเทศส่วนใหญ่มาจาก 2 สาเหตุ คือ 1.ขาดอากาศหายใจ และ 2.จากการสูดก๊าซพิษเข้าไป ก๊าซที่พบบ่อย 3 ชนิด คือ ก๊าซไข่เน่า ก๊าซมีเทน ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ที่อันตรายสุดคือ ก๊าซไข่เน่า หากสูดเข้าไปอาจจะทำให้หยุดหายใจ และเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นก่อนลงไปทำงานในที่อับอากาศ จะต้องใช้เครื่องมือตรวจวัดปริมาณออกซิเจน สารเคมีอันตรายหรือก๊าซพิษก่อน และจัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะถังบรรจุออกซิเจนและหน้ากากที่สำคัญต้องมีผู้ช่วยเหลืออยู่ที่ปากบ่อ หรือปากทางอย่างน้อย 1 คน และผู้ควบคุมการทำงาน 1 คน หากเห็นว่ามีอาการหรือท่าทางผิดปกติต้องรีบนำตัวออกมาทันที
อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือผู้ได้รับอันตราย ควรดึงเชือกขึ้นมาแทนการลงไป หลังจากนั้นให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยให้นอนราบในที่อากาศถ่ายเทดี หากพบว่าไม่หายใจและหัวใจหยุดเต้น ให้ผายปอดและนวดหัวใจ และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด หรือ โทรแจ้ง 1669