ย้อนรอย มรดกเลือด ฆ่าได้ทุกคนแม้แต่พ่อแม่!

กลายเป็นข่าวใหญ่อีกข่าว เมื่อตำรวจสรุปว่าคดีฆ่ายกครัว "หอมชง" ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจ้างวานฆ่าทั้ง 3 ศพ เป็น "น้องชายคนเล็กของบ้าน" ที่อายุเพียง 22 ปี เท่านั้น โดยมีมูลเหตุจูงใจที่ต่องฆ่า พ่อ แม่ และพี่ชายตนเองเป็นมรดกจากที่ดินทีมีมูลค่านับ 100 ล้านบาท 

แต่คดีนี้ไม่ใช่คดีแรกของไทยที่ฆ่ากันโดยมีปมเรื่องมรดก ย้อนกลับไป เมื่อปี 2548 ตระกูล "ชายชีวินลิขิต" ตกเป็นข่าวคึกโครม เมื่อนายชีวิน ถูกลอบสังหารในกรุงเทพฯ โดยเจ้าตัวสงสัยปมแย่งอำนาจภายในเครือญาติ เพราะนายชีวินเป็นเจ้าของกิจการจำหน่ายรถยนต์อีซูซุ รายใหญ่ของอ.ชุมแพ รวมทั้งโรงแรมใหญ่ และกิจการอีกมากมายมูลค่าหลายพันล้าน โดยแบ่งให้เมีย 6 คน และลูกๆ อีกนับสิบช่วยกันดูแล แต่เมื่อถูกลอบยิง เสี่ยชีวิน เริ่มสงสัยคนใกล้ตัว จึงแก้พินัยกรรมไม่แบ่งมรดกให้ใครแต่เก็บไว้เป็นกองกลาง หรือ "กงสี" นำดอกผลมาแบ่งปันกัน กำหนดเวลานับ 100 ปี เพื่อป้องกันลูกเมียแย่งชิงมรดกกันเอง

แต่หลังจากนั้นโศกนาฎกรรมก็ค่อยๆ เกิดขึ้่นเมื่อสี่ยชีวินเสียชีวิตจากอาการป่วย ทำให้จากนั้นมามีความขัดแย้งเกี่ยวกับศึกแย่งมรดกและการแบ่งเงินกงสีหลายครั้ง จนปี 52 "เจ๊หงส์" ภรรยาคนที่ 2 ถูกมือปืนยิงตายที่ อ.ชุมแพ ถัดมาอีกปี 53 นายนาวิน หรือ "เสี่ยอ๊อด" บุตรชายคนโตซึ่งดูแลกิจการสำคัญๆ แทนบิดา ถูกยิงถล่มรถที่ อ.วังสะพุง แต่รอดชีวิตมาได้หวุดหวิด แต่ก็ถูกคนร้ายยิงถล่มและปาระเบิดบ้านที่เมืองขอนแก่นอีก โดยทั้ง 2 คดี ตำรวจได้ข้อมูลว่าคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกันและพัวพันถึงคนในตระกูลชายชีวินลิขิต ทำให้ตามจับมือปืนได้ ซึ่งทุกคนให้การซัดทอดถึงคนในครอบครัวและศาลจังหวัดขอนแก่น พิจารณาคดีไปแล้ว 

อีกคดีที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คดีฆ่าโหดตระกูล "ชนะศัตรู" เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายวันที่ 16 ธันวาคม 2553 พ.ต.ท.สถิตย์ พราวแดง สวส.สภ.หนองขาม รับแจ้งว่ามีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 420 หมู่ 6 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

นายนาวิน ชนะศัตรู กับ นายกิตติศักดิ์ ชนะศัตรู สองพ่อลูก ที่ใช้ปืนฆ่า นางถนอมศรี ชนะศัตรู พี่สะใภ้ตายคาบ้านเป็นศพแรกในตอนกลางคืน พอรุ่งเช้าก็เดินทางไปฆ่า นางศิลาณี ชนะศัตรู พี่สาวแท้ๆ กลายเป็นศพที่สองในบ้านอีกหลัง โดยแต่ละศพโดนไล่ยิงด้วยกระสุน 9 ม.ม.จนพรุนทั้งคู่

แต่หลังเกิดเหตุ 2 วัน นายนาวิน ชนะศัตรู นัดมอบตัวกับ ร.ต.ท.วิฑูรย์ ธงนำทรัพย์ รองสวป.สภ.แสนสุข ที่ปั๊มน้ำมันปตท.ถนนสายบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี และเปิดปากสารภาพหมดเปลือกว่า ปมสังหารมาจากมรดกที่ดินนับพันไร่มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ซึ่งนางศิลาณีเป็นผู้จัดการกองมรดก แต่กลับไม่ยอมแบ่งให้ ก่อนเกิดเหตุไปซื้อเบียร์มานั่งดื่มกับนางถนอมศรี ที่มีความลึกซึ้งกันมากกว่าพี่สะใภ้มานานแล้วที่บ้าน พูดคุยกันถึงเรื่องมรดกที่ดิน แต่คุยกันไม่รู้เรื่องจึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ด้วยความโมโหจึงหันไปหยิบปืนที่วางอยู่ใกล้ตัวยิงใส่นางถนอมศรีจนเสียชีวิต ก่อนขับรถไปหานางศิลาณีที่บ้านโค้งดารา เล่าเรื่องราวที่ยิงพี่สะใภ้จนเสียชีวิตให้ฟัง แต่กลับมาด่าซ้ำ จึงชักปืนยิงใส่พี่สาวจนถึงแก่ความตายอีกในห้องดังกล่าว

อีกคดีที่แม้จะจับคนผิดได้แล้ว แต่มูลเหตุในการฆ่าก็ยังคงคลุมเครือ สำหรับคดีนางสุรางค์ ดวงจินดา แม่หมอนิ่ม ว่าจ้างมือปืนฆ่าเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ นักยิงปืนทีมชาติ โดยให้เหตุผลว่าเพราะแค้นที่ลูกสาวโดนซ้อมบ่อย ๆ  แต่ปัญหาเรื่องที่หมอนิ่มแอบไปเปิดเซฟของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ก็ยังคงอยู่ในความสงสัยของคนในสังคมว่า คดีนี้มีเบื้องหลัง อย่างไรหรือไม่ 

ทั้ง 4 คดี เป็นตัวอย่างที่เกิดจากความโลภ และไม่รู้จักพอของมนุษย์ ตราบใดที่ยังคงยึดโยงอยู่กับทรัพย์สมบัติ เงินทอง คดีแบบนี้ก็คงจะวนมาเกิดอีกในไม่ช้า