เล่นงี้เอาแชมป์ไป!หงส์เปิดรังเชือดเรือใบสุดมันส์3-2
ฟุตบอล : "หงส์แดง" โชว์ฟอร์มเฉียบ สมราคาแชมป์ หลังเปิดบ้านเอาชนะ "เรือใบ" ไปได้ 3-2 แม้โดนไล่เจ๊าถึงสองครั้ง แต่ได้ "คูตี้" ช่วยซัดชัย น.77 รั้งจ่าฝูงเหนียวแน่น
เกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ต้อนรับวันสงกรานต์ วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2557 เป็นการพบกันระหว่างจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ที่ต้องเปิดถิ่นแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับที่ 3 มี 70 คะแนน ส่วนเจ้าบ้านมี 74 คะแนน ไม่แพ้ใครในเกมลีกมาถึง 14 นัดติด แต่ถ้าหากเกมนี้เกิดพลาดท่า จะทำให้ เชลซี ทีมอันดับ 2 ที่ลงเตะทีหลัง ได้โอกาสทำแต้มแซงขึ้นจ่าฝูงทันที หลังมีแต้มห่างกันแค่ 2 แต้มเท่านั้น
เริ่มเกม น.6 เท่านั้น เหล่า"เดอะค็อป" ก็ได้เฮลั่นทุ่งแอนด์ฟิลด์ จากจังหวะที่ ซัวเรซ ได้บอลแล้วจ่ายทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ สเตอร์ลิ่ง วิ่งสอดมาระหว่างสองเซ็นเตอร์แบ็กของทีมเยือน แล้วจัดการล็อกถึงสองจังหวะจนแนวรับ "เรือใบ" ล้มระเนระนาด แล้วยิงเข้าไปแบบนิ่งสุดๆ ส่งให้ เจ้าบ้านออกนำตั้งแต่ต้นเกม 1-0
จากนั้น น.15 "เร้ดแมชชีน" ยังไม่ผ่อนเกมบุก คราวนี้เป็น สเตอร์ลิ่ง ที่เปิดบอลผ่านแนวรับ แมนฯซิตี้ เข้าไปถึง สเตอร์ริดจ์ ได้เข้าฮอสแปด้วยซ้าย บอลหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาอีกไม่กี่นาที ทีมเยือนต้องมาเสีย ยาย่า ตูเร่ หลังเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องส่ง ฆาบี การ์เซีย ลงมาแทน
น.26 ยังไม่พอ! ลิเวอร์พูล ได้ประตูหนีห่างออกไปจากจังหวะเตะมุมของ เจอร์ราร์ด แล้วเป็น สเคอร์เทล เซ็นเตอร์จอมโขก ที่เทกตัวขึ้นโขกพังประตูที่เสาแรก บอลพุ่งเข้าก้นตาข่ายอย่างแรงชนิดที่สะใจกองเชียร์แบบสุดๆ ทำให้สกอร์ขยับไปเป็น 2-0
น.43 ทีมเยือนขอลุ้นบ้าง จากเกมสวนกลับที่ นาบาส พาบอลขึ้นมาทางกราบขวาแล้วเปิดบอลไปเข้าหัวของ ซิลบา ได้โขกเช็ดในเขตโทษแบบเดี่ยวๆ ทว่าบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จังหวะติดๆ กัน แฟร์นันดินโญ่ ได้ล้มตัวยิงในเขตโทษจากลูกเปิดด้านข้างแต่ มิโญเล่ต์ โชว์หนึบพุ่งตะครุบบอลไว้ได้ทันที หลังจากนั้นไม่กี่นาที ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรกไปด้วยการนำของเจ้าบ้าน 2-0
เริ่มเกมในครึ่งหลัง น.53 ผู้เล่น แมนฯซิตี้ กรูเข้าไปประท้วงผู้ตัดสิน หลัง เดมิเคลิส เข้าสกัด ซัวเรซ แบบไม่สัมผัสตัวแม้แต่นิดเดียว ทว่า ซัวเรซ เจตนาพุ่งล้ม แต่ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ไม่แจกใบเหลืองใบที่สองแก่ดาวเตะฟันจอบรายนี้แต่อย่างใด หลังเจ้าตัวได้รับใบเหลืองแรกไปแล้วตั้งแต่ต้นเกม
น.57 แมนฯซิตี้ เริ่มเล่นได้ดีกว่า และมาได้ประตูตีตื้นจากการทำชิ่งเข้าไปในเขตโทษของ มิลเนอร์ กับ แฟร์นันดินโญ่ จังหวะสุดท้ายเป็น ซิลบา ที่ล้มตัวยิง บอลไปโดน เกล็น จอห์นสัน ก่อนค่อยๆ ไหลเข้าประตูไป ทำให้ ทีมเยือนไล่ขึ้นมาเป็น 2-1
น.61 ช็อกทั้งโลก!จากที่นำก่อนถึงสองลูก มาโดนลูกยิงมุมแคบของ ซิลบา แม้ลูกยิงจะไร้พิษสง แต่บอลยังไปแฉลบ จอห์นสัน กระดอนไปโดน มิโญเล่ต์ อีกต่อหนึ่ง ก่อนที่บอลจะเข้าประตูไปแบบงงๆ ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2
น.77 ฟอร์มแชมป์มาแล้ว..จากลูกทุ่มเข้าไปในเขตโทษของทีมเยือน ก็องปานี กองหลังกัปตันทีมเตะสกัดบอลแป้ก ออกมาเข้าทาง คูตินโญ่ ที่รออยู่แล้วหน้าเขตโทษ จัดการสับไกทันที บอลพุ่งวาบเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้เจ้าถิ่นกลับมานำอีกครั้ง เป็น 3-2
ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯซิตี้ ทำเกมบุกเข้าใส่ได้มากกว่าเจ้าบ้าน อีกทั้ง น.90+2 เฮนเดอร์สัน ก็มาโดนใบแดงจากการเข้าสกัดแบบเปิดปุ่มสตั๊ดใส่ นาสรี่ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าถิ่น สุดท้ายจบเกมอันสุดมันส์ไปด้วยชัยชนะของ ลิเวอร์พูล เหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 77 แต้ม รั้งจ่าฝูงเหนียวแน่นเหมือนเดิม ด้าน แมนฯซิตี้ อยู่อันดับที่ 3 มี 70 แต้มตามเดิม สำหรับนัดต่อไป "หงส์แแดง" มีคิวบุกไปเยือน นอริช ซิตี้ วันที่ 20 เม.ย.57 ส่วน "เรือใบสีฟ้า" ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ซันเดอร์แลนด์ วันที่ 16 เม.ย.57
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริง ลิเวอร์พูล : ซิ มง มิโญเล่ต์(GK), เกล็น จอห์นสัน, จอน ฟลานาแกน, มามาดู ซาโก้, มาร์ติน สเคอร์เทล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่(วิคเตอร์ โมเสส น.88), ราฮีม สเตอร์ลิง(ลูคัส เลว่า น.90), หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์(โจ อัลเลน น.68)
ผู้เล่นสำรอง : แบรด โจนส์(GK), โคโล ตูเร่, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, ยาโก้ อัสปาส, วิคเตอร์ โมเสส, ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน
ใบเหลือง : หลุยส์ ซัวเรซ น.4
ใบแดง : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.90+2
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท(GK), ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่(ฆาบี การ์เซีย น.18), แฟร์นันดินโญ่, เฆซุส นาบาส(เจมส์ มิลเนอร์ น.49), ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่, เอดิน เชโก้(เซร์คิโอ อเกวโร่ น.67)
ผู้เล่นสำรอง : คอสเทล ปันติลิมอน(GK), เจมส์ มิลเนอร์, อัลบาโร่ เนเกรโด้, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, ฆาบี การ์เซีย, เซร์คิโอ อเกวโร่
ใบเหลือง : ฆาบี การ์เซีย น.21, แฟร์นันดินโญ่ น.45, ปาโบล ซาบาเลต้า น.77
ใบแดง :
ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก
เกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ต้อนรับวันสงกรานต์ วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2557 เป็นการพบกันระหว่างจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ที่ต้องเปิดถิ่นแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับที่ 3 มี 70 คะแนน ส่วนเจ้าบ้านมี 74 คะแนน ไม่แพ้ใครในเกมลีกมาถึง 14 นัดติด แต่ถ้าหากเกมนี้เกิดพลาดท่า จะทำให้ เชลซี ทีมอันดับ 2 ที่ลงเตะทีหลัง ได้โอกาสทำแต้มแซงขึ้นจ่าฝูงทันที หลังมีแต้มห่างกันแค่ 2 แต้มเท่านั้น
เริ่มเกม น.6 เท่านั้น เหล่า"เดอะค็อป" ก็ได้เฮลั่นทุ่งแอนด์ฟิลด์ จากจังหวะที่ ซัวเรซ ได้บอลแล้วจ่ายทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ สเตอร์ลิ่ง วิ่งสอดมาระหว่างสองเซ็นเตอร์แบ็กของทีมเยือน แล้วจัดการล็อกถึงสองจังหวะจนแนวรับ "เรือใบ" ล้มระเนระนาด แล้วยิงเข้าไปแบบนิ่งสุดๆ ส่งให้ เจ้าบ้านออกนำตั้งแต่ต้นเกม 1-0
จากนั้น น.15 "เร้ดแมชชีน" ยังไม่ผ่อนเกมบุก คราวนี้เป็น สเตอร์ลิ่ง ที่เปิดบอลผ่านแนวรับ แมนฯซิตี้ เข้าไปถึง สเตอร์ริดจ์ ได้เข้าฮอสแปด้วยซ้าย บอลหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาอีกไม่กี่นาที ทีมเยือนต้องมาเสีย ยาย่า ตูเร่ หลังเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องส่ง ฆาบี การ์เซีย ลงมาแทน
น.26 ยังไม่พอ! ลิเวอร์พูล ได้ประตูหนีห่างออกไปจากจังหวะเตะมุมของ เจอร์ราร์ด แล้วเป็น สเคอร์เทล เซ็นเตอร์จอมโขก ที่เทกตัวขึ้นโขกพังประตูที่เสาแรก บอลพุ่งเข้าก้นตาข่ายอย่างแรงชนิดที่สะใจกองเชียร์แบบสุดๆ ทำให้สกอร์ขยับไปเป็น 2-0
น.43 ทีมเยือนขอลุ้นบ้าง จากเกมสวนกลับที่ นาบาส พาบอลขึ้นมาทางกราบขวาแล้วเปิดบอลไปเข้าหัวของ ซิลบา ได้โขกเช็ดในเขตโทษแบบเดี่ยวๆ ทว่าบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จังหวะติดๆ กัน แฟร์นันดินโญ่ ได้ล้มตัวยิงในเขตโทษจากลูกเปิดด้านข้างแต่ มิโญเล่ต์ โชว์หนึบพุ่งตะครุบบอลไว้ได้ทันที หลังจากนั้นไม่กี่นาที ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรกไปด้วยการนำของเจ้าบ้าน 2-0
เริ่มเกมในครึ่งหลัง น.53 ผู้เล่น แมนฯซิตี้ กรูเข้าไปประท้วงผู้ตัดสิน หลัง เดมิเคลิส เข้าสกัด ซัวเรซ แบบไม่สัมผัสตัวแม้แต่นิดเดียว ทว่า ซัวเรซ เจตนาพุ่งล้ม แต่ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ไม่แจกใบเหลืองใบที่สองแก่ดาวเตะฟันจอบรายนี้แต่อย่างใด หลังเจ้าตัวได้รับใบเหลืองแรกไปแล้วตั้งแต่ต้นเกม
น.57 แมนฯซิตี้ เริ่มเล่นได้ดีกว่า และมาได้ประตูตีตื้นจากการทำชิ่งเข้าไปในเขตโทษของ มิลเนอร์ กับ แฟร์นันดินโญ่ จังหวะสุดท้ายเป็น ซิลบา ที่ล้มตัวยิง บอลไปโดน เกล็น จอห์นสัน ก่อนค่อยๆ ไหลเข้าประตูไป ทำให้ ทีมเยือนไล่ขึ้นมาเป็น 2-1
น.61 ช็อกทั้งโลก!จากที่นำก่อนถึงสองลูก มาโดนลูกยิงมุมแคบของ ซิลบา แม้ลูกยิงจะไร้พิษสง แต่บอลยังไปแฉลบ จอห์นสัน กระดอนไปโดน มิโญเล่ต์ อีกต่อหนึ่ง ก่อนที่บอลจะเข้าประตูไปแบบงงๆ ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2
น.77 ฟอร์มแชมป์มาแล้ว..จากลูกทุ่มเข้าไปในเขตโทษของทีมเยือน ก็องปานี กองหลังกัปตันทีมเตะสกัดบอลแป้ก ออกมาเข้าทาง คูตินโญ่ ที่รออยู่แล้วหน้าเขตโทษ จัดการสับไกทันที บอลพุ่งวาบเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้เจ้าถิ่นกลับมานำอีกครั้ง เป็น 3-2
ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯซิตี้ ทำเกมบุกเข้าใส่ได้มากกว่าเจ้าบ้าน อีกทั้ง น.90+2 เฮนเดอร์สัน ก็มาโดนใบแดงจากการเข้าสกัดแบบเปิดปุ่มสตั๊ดใส่ นาสรี่ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าถิ่น สุดท้ายจบเกมอันสุดมันส์ไปด้วยชัยชนะของ ลิเวอร์พูล เหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 77 แต้ม รั้งจ่าฝูงเหนียวแน่นเหมือนเดิม ด้าน แมนฯซิตี้ อยู่อันดับที่ 3 มี 70 แต้มตามเดิม สำหรับนัดต่อไป "หงส์แแดง" มีคิวบุกไปเยือน นอริช ซิตี้ วันที่ 20 เม.ย.57 ส่วน "เรือใบสีฟ้า" ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ซันเดอร์แลนด์ วันที่ 16 เม.ย.57
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริง ลิเวอร์พูล : ซิ มง มิโญเล่ต์(GK), เกล็น จอห์นสัน, จอน ฟลานาแกน, มามาดู ซาโก้, มาร์ติน สเคอร์เทล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่(วิคเตอร์ โมเสส น.88), ราฮีม สเตอร์ลิง(ลูคัส เลว่า น.90), หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์(โจ อัลเลน น.68)
ผู้เล่นสำรอง : แบรด โจนส์(GK), โคโล ตูเร่, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, ยาโก้ อัสปาส, วิคเตอร์ โมเสส, ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน
ใบเหลือง : หลุยส์ ซัวเรซ น.4
ใบแดง : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.90+2
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท(GK), ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่(ฆาบี การ์เซีย น.18), แฟร์นันดินโญ่, เฆซุส นาบาส(เจมส์ มิลเนอร์ น.49), ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่, เอดิน เชโก้(เซร์คิโอ อเกวโร่ น.67)
ผู้เล่นสำรอง : คอสเทล ปันติลิมอน(GK), เจมส์ มิลเนอร์, อัลบาโร่ เนเกรโด้, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, ฆาบี การ์เซีย, เซร์คิโอ อเกวโร่
ใบเหลือง : ฆาบี การ์เซีย น.21, แฟร์นันดินโญ่ น.45, ปาโบล ซาบาเลต้า น.77
ใบแดง :
ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก
