โล้นโฉด! แชทเฟซบุ๊กลวงเด็ก13 ทำอนาจารคากุฏิ

โล้นโฉด! แชทเฟซบุ๊กลวงเด็ก13 ทำอนาจารคากุฏิ

โล้นโฉด! แชทเฟซบุ๊กลวงเด็ก13 ทำอนาจารคากุฏิ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาพจาก สปริงนิวส์

(14 เม.ย.) สองสามีภรรยาชาวพิจิตร ได้แจ้งความกับทาง ปคม.เอาไว้ว่าลูกสาว คือ ด.ญ.หน่อย (นามสมมติ) วัย 13 ปี หนีออกจากบ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยก่อนหน้านี้ลูกสาวมักจะใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกับเพื่อน จึงเกรงว่าจะถูกหลอกลวงผ่านทางโซเชียลมีเดีย และเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา นายทศพรซึ่งขณะนั้นยังบวชเป็นพระ ได้ติดต่อกับ ด.ญ.หน่อย (นามสมมติ) ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยใช้ถ้อยคำหลอกลวงให้ ด.ญ.หน่อย หนีออกจากบ้านมาพบนายทศพรที่วัดย่านรามอินทรา โดย ด.ญ.หน่อย หลงเชื่อและหนีออกจาก จ.พิจิตร มาหานายทศพรที่วัดพร้อมกับนอนค้างหนึ่งคืนที่กุฏิ ก่อนที่นายทศพรจะขอลาสิกขาในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วพามาที่ห้องพักของเพื่อนย่านรามอินทรา จากนั้นได้พากันหลบหนีไปที่ จ.จันทบุรีและถูกจับกุมในเวลาต่อมา

ล่าสุด นายทศพร สกุลอินทร์ อายุ 40 ปี อดีตพระลูกวัดแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ผู้ต้องหากระทำผิดฐานพรากผู้เยาว์และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน15 ปี ถูกชุดสืบสวนจากกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) จับกุมได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี

ด้านนายทศพร รับสารภาพว่าได้หลอกลวงและกระทำอนาจาร ด.ญ.หน่อย จริง แต่อ้างว่าทำไปเพราะความรักไม่ได้หลอกลวง เนื่องจาก ด.ญ.หน่อย บอกว่ามีปัญหาทางบ้าน จึงนั่งรถจาก จ.พิจิตร มาหา โดยได้พูดคุยผ่านทางเฟซบุ๊กตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งนายทศพรเองก็เคยมีครอบครัวและมีบุตรมาแล้วถึง 4 คน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัว ด.ญ.หน่อยไปตรวจที่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิ์กระทรวงยุติธรรมดำเนินการเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook