ธีระชัย อัด ศอ.รส.ตั้งแง่ป.ป.ช. แนะตอบได้1ใน5ข้อพ้นผิด
ธีระชัย แนะ ศอ.รส.หาข้อมูลช่วยนายกชี้แจง ปปช.ดีกว่าตั้งธงกล่าวหา ปปช.ไม่ให้ความเป็นธรรม แนะหากตอบได้ใน 5 แนวทางเชื่อพ้นผิดได้
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้โพสต์ความเห็นใน เฟซบุก๊กส่วนตัว Thirachai Phuvanatnaranubala กรณีที่ ศอ.รส.ออกมาแถลงการณ์ขอให้องค์กรอิสระให้ความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะในส่วนของ ปปช. เกี่ยวกับคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว โดย ชี้ให้เห็นถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง หากนายกรัฐมนตรีสามารถเตรียมข้อมูลตอบคำถามได้ 1ใน5 แนวทาง จะสามารถพ้นความผิดได้ พร้อมทั้งแนะให้ ศอ.รส. ช่วยหาข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจง ปปช.ดีกว่า ตั้งแง่ ว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากปปช. มีรายละเอียดดังนี้
มีข่าววันนี้ ศอรส ขอให้ ปปช พิจารณาเรื่องจำนำข้าว อย่างตรงไปตรงมา
และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องการโยกย้ายคุณถวิล อย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน และไม่วินิจฉัยเกินรัฐธรรมนูญ
วันนี้ ผมขอให้ข้อมูลเรื่องการจำนำข้าวก่อน เพื่อช่วยนายกยิ่งลักษณ์ใช้ในการชี้แจงต่อ ปปช
เพราะผมอยากให้ท่าน ได้รับความเป็นธรรมเต็มที่
ทั้งนี้ มีผู้ที่สงสัย และสอบถามผมว่า การที่โครงการนี้ขาดทุนสูงมากนั้น จะเป็นเหตุให้ ปปช ชี้มูลและเอาผิดอาญา ต่อนายกยิ่งลักษณ์ได้หรือไม่
ไม่ครับ
โครงการนี้ได้ประกาศต่อสาธารณะในการหาเสียง และได้แถลงต่อรัฐสภาตอนเริ่มบริหารงานไปแล้ว
หากขาดทุน เพราะขายต่ำกว่าราคาที่ซื้อ โดยมีการขายอย่างสุจริต ตามสภาพตลาด หรือหากขาดทุน จากการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติปกติ
ขาดทุนอย่างนี้ จะเอาผิดอาญากับนายกยิ่งลักษณ์ไม่ได้ครับ ต้องปล่อยให้เป็นการลงโทษทางการเมือง
เพราะเป็นความผิดเฉพาะทางการเมือง ไม่ใช่จากการเจตนาทุจริต พูดภาษาง่ายๆ ก็คือเป็นนโยบายการเมือง ที่ประชาชนเห็นด้วย แต่ผิดพลาด
การลงโทษทางการเมือง ก็ต้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พิพากษาในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเอาเอง
ปปช ไม่มีสิทธิชี้มูล หรือจะดำเนินคดีอาญาได้
ดังนั้น การที่ทีมทนายของนายกยิ่งลักษณ์ พยายามจะพิสูจน์ ว่าโครงการมีผลขาดทุน น้อยกว่าที่เป็นข่าว จึงไม่มีนัยสำคัญต่อคดีที่ ปปช
กรณีที่ ปปช จะชี้มูลได้นั้น จะต้องเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูง และมีนัยสำคัญ และจะต้องเกี่ยวข้องถึงนายกยิ่งลักษณ์ด้วย
เท่าที่ผมอ่านข่าวนั้น ปปช เห็นว่า การขายข้าวแบบ G to G ที่อ้างนั้น ไม่ใช่การขายให้แก่รัฐบาลต่างประเทศจริงๆ แต่ปลอมตัวเป็นการขายแบบ G to G เพื่อหลีกเลี่ยง ผู้ซื้อไม่ต้องประมูลแข่งกับผู้ใด
หากเป็นการขายแบบนี้จริง ก็จะทำให้รัฐบาลได้เงินน้อยกว่าที่ควร และทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องร่ำรวย ประโยชน์ที่ไม่ควรได้ ทำให้ชาติเสียหาย
เข้าข่ายเป็นการทุจริต
แต่นายกยิ่งลักษณ์ จะสามารถชี้แจง ให้ตนเองพ้นผิดได้
โดยเลือกข้อใดข้อหนึ่ง ต่อไปนี้
(ก) โดยอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งของตนเอง ไม่ได้เคยเกี่ยวข้อง ไม่เคยอนุมัติ และไม่เคยรับทราบ การขายแบบ G to G ดังกล่าว หรือ
(ข) โดยอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งของตนเอง ไม่เคยได้ทราบมาก่อนว่า มีการเตือนจากหน่วยงานทางการ ให้ระวัง และป้องปรามการทุจริตในโครงการจำนำข้าว หรือ
(ค) ตนเองได้รับทราบคำเตือนตามข้อ (ข) แล้ว และได้กำหนดมาตรการเพื่อป้องปรามการทุจริตไว้หลายอย่างแล้ว โดยระบุมาตรการดังกล่าว แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไม่ปฏิบัติตาม หรือ
(ง) ตนเองได้สงสัยพฤติกรรม ของรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้อง และได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเพื่อเอาผิดแล้ว หรือ
(จ) ตนเองได้ตรวยสอบพฤติกรรม ของรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่เห็นว่าไม่ผิดใดๆ โดยอธิบายเหตุผลที่ ปปช อาจจะเข้าใจผิด
จะเห็นได้ว่า มีตั้ง 5 แนวทาง ที่นายกยิ่งลักษณ์สามารถจะชี้แจง เพื่อให้ตนเองพ้นผิดได้
แต่ต้องยอมรับว่า บางแนวทางอาจจะใช้ยากสักหน่อย
เพราะนายกยิ่งลักษณ์เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ
และเคยมีการเสนอหนังสือเตือน จากหน่วยงาน ต่อที่ประชุม ครม
และมีวีดีโอ ที่ นพ วรงค์ แสดงในที่ชุมนุม กปปส ที่มีภาพและเสียงของนายกยิ่งลักษณ์ พูดถึงการขาย G to G แสดงว่าตนเองรับทราบ โดยมีคุณบุญทรง ยืนอยู่ข้างๆ
แต่บางแนวทาง ก็อาจจะยังมีช่องทางอยู่ก็ได้
ผมจึงอยากจะแนะนำว่า ศอรส ควรจะช่วยหาข้อมูล เพื่อช่วยนายกยิ่งลักษณ์ ในการชี้แจงต่อ ปปช ตาม 5 แนวทางข้างต้น
ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ มากกว่าที่จะมาตั้งแง่ สันนิษฐานว่า ปปช อาจจะไม่ให้ความเป็นธรรมแก่นายกยิ่งลักษณ์