ชัช มือกลองบอดี้สแลมเมางัดห้องสาวโดนจับส่งตร.

มือกลองวงบอดี้สแลม 'ชัช สุชัฒติ' เมางัดห้องสาวคอนโดย่านคันนายาว โดนจับส่งตำรวจ เจอแจ้งข้อหาบุกรุกเคหะสถานผู้อื่นแล้ว

พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ พงส.ผนพ. (หน.) สน.คันนายาว เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตำรวจได้รับแจ้ง
มีคนบุกรุกจะเข้าในห้องของหญิงสาว ในคอนโดมิเนียม ท้องที่ สน.คันนายาว ซึ่งเบื้องต้น ชายคนดังกล่าวคือ ชัช หรือ นายสุชัฒติ จั่นอี๊ด มือกลองวงบอดี้สแลม ซึ่งมีนักร้องชื่อดัง คือ ตูน ร่วมวงด้วย โดยผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ให้การว่า มือกลองคนดังกล่าวใช้มีดพยายามงัดเข้าไปในห้องของตนเอง โดยมีอาการเมาด้วย จึงได้แจ้งตำรวจ และล่าสุด ตำรวจได้นำตัวมือกลองชื่อดังมาสอบปากคำแล้ว ซึ่งยอมรับว่า เมา และพยายามจะเข้าไปในห้องจริง ตำรวจจึงแจ้งข้อหาบุกรุกเคหะสถานผู้อื่น และกำลังพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่อย่างไร

ทางด้านนางสาวขวัญจิรา หรือ จอย บุญหล่อปั้น อายุ 32 ปี เจ้าของร้านอาหารใน ม.เกษตรศาสตร์ เข้าแจ้งความดำเนินคดี นายสุชัฒติ จั่นอี๊ด หรือชัช มือกลอง วงบอดี้สแลม หลังก่อเหตุงัดห้องพักชั้น 8 สมาร์ทคอนโด ย่านตลาดถนอมมิตร วัชรพล เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา โดย นางสาวเจ บุญหล่อปั้น น้องสาวของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ พี่สาวได้โทรศัพท์มาหาตนเองและเล่าว่ามีคนพยายามงัดห้องนอน จากนั้นจึงไปขอนิติบุคคลดูภาพกล้องวงจรปิด พบว่า มีผู้ชายเดินไปมาระหว่างห้องของผู้ชายและห้องของพี่สาวกว่า 10 รอบ ซึ่งในแต่ละครั้งที่เดินมา จะถอดเสื้อบ้าง ถือขวดเบียร์บ้าง และถือกล้องบ้าง จนครั้งสุดท้ายใช้มีดปอกผลไม้งัดและเดินเข้าไปภายในห้องก่อนเดินออกมา และทิ้งมีดไว้ภายในห้อง ซึ่งคาดว่าที่ยังไม่ก่อเหตุใด เพราะพี่สาวพักอยู่กับแฟนหนุ่ม ข

ขณะที่ นางสาวเจ ระบุอีกว่า เมื่อเช้า นายสุชัฒติ ได้มาเคาะห้องเพื่อกล่าวขอโทษ แต่พี่สาวกลัวจึงไม่เปิดประตู และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัว ทั้งนี้ นายสุชัฒติ อยู่ชั้นเดียวกันกับพี่สาว ถัดไปประมาณ 5 ห้อง และพักอยู่กับแฟนสาว โดย นางสาวเจ ยืนยันว่า ตนและพี่สาวไม่รู้จัก นายสุชัฒติ มาก่อน เพิ่งมารู้วันนี้ว่าเป็นมือกลอง วงบอดี้สแลม และไม่เข้าใจว่าทำไปเพราะสาเหตุใด

 

'ชัช'รับเมาปัดเจตนางัดห้องอ้างจะคืนกุญแจ

ฉาวอีกรายสำหรับมือกลองวงบอดี้สแลม "ชัช สุชัฒติ จั่นอี๊ด" ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว จับกุมข้อหาบุกรุกห้องหญิงสาว ที่สมาร์คอนโด ย่านวัชรพล ซึ่งทางผู้เสียหายคือ นางสาวขวัญจิรา บุญหล่อปั้น หรือ จอย ได้เข้าแจ้งความกับทาง สน.คันนายาว โดยหลังจากแจ้งความ นางสาวขวัญจิรา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า คืนนั้นตนอยู่แฟนที่ห้องพัก และได้ยินเสียงคนมาบิดลูกบิดประตูหลายครั้ง ตัดสินใจเดินออกมาดูที่ช่องตาแมว แต่ไม่พบใคร แต่ไม่กล้าออกมาดู เพราะความกลัว จนกระทั่งตื่นมาอีกครั้ง จึงลงไปขอนิติบุคคลเพื่อดูภาพวงจรปิด พบว่า นายสุชัฒติ เดินไปมาที่หน้าห้องพักของตนเอง นายสุชัฒติ ได้ใช้มีดงัดเข้ามาภายในห้องประมาณ 20 วินาที ก่อนเดินออกไป นางสาวขวัญจิรา ระบุว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นตนรู้สึกกลัวมาก และรู้สึกไม่ปลอดภัย และขอดำเนินการให้ถึงที่สุด

ส่วนทางด้าน นายชัช ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันที่เกิดเหตุ ตนเมาสุราเพราะทะเลาะกับแฟน บังเอิญเห็นกุญแจคาอยู่หน้าห้องของผู้เสียหาย ตนจึงพยายามเคาะห้องเพื่อจะบอก ตนพยายามเรียกด้วยเสียงคนเมาแต่ไม่มีใครตอบ ตนจึงกลับไปที่ห้องไปหยิบมีดเพื่อจะมางัดห้องผู้เสียหาย ตนจึงงัดและเอากุญแจไปคืน ตนไม่ได้เจตนาร้าย แต่ด้วยความที่เมาอย่างขาดสติเลยทำอะไรแบบนั้น ต้องขอโทษทางผู้เสียหายด้วย เกิดจากความตั้งใจจะคืนกุญแจ ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย ตนยอมรับผิด ทางผู้เสียหายไม่ยอมความก็สุดแต่เขาเลยครับ ส่วนทางค่ายเองก็ไม่มีการพักงาน ส่วนข้อกล่าวหาเดี๋ยวคงต้องดูอีกที

โดยเจ้าหน้าที่ร้อยเวร พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ เผยว่า ขณะนี้ตั้ง 2 ข้อหา คือบุกรุมเคหะสถาน และก่อกวนสร้างความวุ่นวาย ซึ่งทาง นายชัช ได้พิมลายนิ้วมือรับทราบข้อกล่าวหา และเปรียบเทียบปรับข้อหาก่อกวนสร้างความวุ่นวาย ส่วนข้อหาบุกรุก ยอมความไม่ได้ ต้องรอสอบสวนข้อกล่าวหา 3 เดือน รอขึ้นศาลจังหวัดมีนบุรี