ศาลรธน.ติงศอ.รส. ก้าวล่วงอำนาจตลก. -ปปช.ย้ำยึดนิติธรรม

ศาลรัฐธรรมนูญ แถลงการณ์โต้ ศอ.รส. ชี้ เป็นการคุกคามก้าวล่วงตุลาการ เกินอำนาจหน้าที่ ยัน ศาลวินิจฉัยคดีตามกฎหมาย ขณะที่ ป.ป.ช. ติง ศอ.รส. หมิ่นเหม่แทรกอำนาจการทำงาน ย้ำ ยึดหลักนิติธรรม

ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะนี้ ล่าสุด สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. โดย นายชัยเกษม นิติสิริ ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศอ.รส.  ได้แถลงถึงการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องที่เกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ในการแทรกแซงโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า การออกมาให้ข้อมูลของ ศอ.รส. ดังกล่าว มีลักษณะก้าวก่ายและแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นองค์กรตุลาการหนึ่งในอำนาจอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ มีการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตซึ่งเป็นลักษณะการคุกคาม ก้าวล่วงการใช้ดุลพินิจของตุลาการและศาล

ซึ่งมีผลทำลายชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ ศรัทธาของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำที่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของ ศอ.รส. ตามพระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ที่มีหน้าที่หลักในการรับผิดชอบป้องกันภัยทางความมั่นคงของประเทศเท่านั้น

ทั้งนี้ การพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ภายใต้พระปรมาภิไธย พระมหากษัตริย์ ดังที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 197 วรรคหนึ่ง บัญญัติไว้ ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย หากการดำเนินการของ ศอ.รส. กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ป.ป.ช.ติงศอ.รส.หมิ่นเหม่แทรกอำนาจย้ำยึดนิติธรรม

ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โดย นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือชี้แจงความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อสื่อมวลชน กรณีที่ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา เรื่องข้อเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ รวมทั้ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินคดีและมีคำวินิจฉัยต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในกรณีโครงการรับจำนำข้าว อย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย โดยไม่เลือกปฏิบัติเป็น 2 มาตรฐานที่แตกต่างกัน ระหว่างคนของพรรคฝ่ายค้านกับพรรครัฐบาล โดยทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะต้องปฏิบัติตามจริยธรรมอันเป็นมาตรฐานสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่ด้วยนั้น

ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ขอย้ำว่า การดำเนินการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ย่อมอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรค 2 โดยไม่กระทำการตามอำเภอใจใช้หลักตามเหตุผล หลักกฎหมาย และหลักความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายเดียวกันโดยเคร่งครัด ปราศจากอคติ แม้จะถูกข่มขู่คุกคามก้าวร้าวและมีการกระทำรุนแรงจากบุคคลบางกลุ่ม และการที่ ศอ.รส. ได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าว นับว่าเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการที่อาจทำให้สาธารณชนเห็นได้ว่ามีการแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จากฝ่ายบริหาร อันไม่เป็นผลดีตามหลักนิติธรรม และกดดันให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. วินิจฉัยหรือใช้ดุลพินิจไปในทางที่ฝ่ายบริหารต้องการ ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีต่อการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ

 

 

-------------------------------------------------------------------------

กิตติรัตน์แจงปปช.กว่า4ชม.ยันเข้มโกงนายกฯไม่ผิด

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=531490