กรมชลเผยน้ำในเขื่อนหลักเหลือไม่ถึงครึ่งอ่าง
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เผย น้ำเขื่อนหลักเหลือไม่ถึงครึ่ง ขอให้ ปชช. ประหยัด
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุน ส่งไปสนับสนุนการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ล่าสุด มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 10,056 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯ รวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้การได้จำนวนทั้งสิ้น 3,360 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 18 ของปริมาณน้ำทั้งหมด
สถานการณ์น้ำในเขื่อนต่าง ๆ มีดังนี้ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 5,442 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,642 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 4,129 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,279 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 246 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 26 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 203 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 239 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 236 ล้านลูกบาศก์เมตร
ผลการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2556/2557 เฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด (24 เม.ย. 57) มีการใช้น้ำไปแล้ว 7,025 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 133 ของแผนฯ จะเห็นได้ว่าการใช้น้ำยังเกินแผนอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือให้เกษตรกรและประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำอย่างจริงจัง ที่สำคัญควรงดทำนาปรังต่อเนื่อง เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองอย่างเพียงพอ สำหรับสนับสนุนการใช้น้ำในการทำนาปี ช่วงต้นฤดูฝนที่ใกล้จะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้