ปชป.ปัดอภิสิทธิ์คนกลางเจรจา-พท.ชง4ทางออกปท.
'ชวนนท์' ปัด 'อภิสิทธิ์' เป็นคนกลางเจรจาหาทางออกประเทศ ยินดี คุย นายกฯ พบ กกต. 29 เม.ย. ขณะที่ พรรคเพื่อไทย ขีดเส้น 10 วัน พิสูจน์ความจริงใจ 'อภิสิทธิ์' เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาประเทศ 4 ข้อ จี้ กกต.คุย กองทัพ ทุ่มเทให้มีการจัดการเลือกตั้ง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการเดินสายพูดคุย เพื่อหาคำตอบให้กับประเทศของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นการเดินสายพูดคุยเพื่อให้ทุกฝ่ายยอมเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องของการเมือง ไม่มีการต่อรองใด ๆ และนายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ใช่คนกลางในการเจรจาด้วย โดยยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ มีความพร้อมในการดำเนินการและจะเดินหน้าดำเนินการพูดคุยกับทุกฝ่ายต่อไป พร้อมกับให้สัญญาและรับประกันว่า จะไม่มีความเสียหาย
เกิดขึ้นต่อประเทศและจะไม่มีการแก้ไขกฎหมาย หรือล่วงเกินรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน จึงขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่น และให้โอกาส นายอภิสิทธิ์ ดำเนินการในครั้งนี้ เพื่อหาคำตอบให้กับประเทศและนำพาประเทศก้าวข้ามวิกฤติในครั้งนี้ไปได้
ทั้งนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ นายอภิสิทธิ์ จะเดินทางเข้าพบ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อพูดคุยในมิติของความมั่นคง และในวันที่ 29 เม.ย. จะเข้าพบ คณะกรรมการการเลือกตั้ง และหลังจากนั้นก็อยากที่จะพบกับตัวแทนของรัฐบาล โดย นายอภิสิทธิ์ ยินดีที่จะพูดคุยกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี แต่ขอให้เป็นการพบปะกันแบบเปิดเผย
พท.ชี้รอ 10 วัน พิสูจน์ความจริงใจ 'อภิสิทธิ์'
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้าหาคำตอบให้ประเทศ ขีดเส้น 10 วัน ว่า การเคลื่อนไหวของ นายอภิสิทธิ์ สอดรับกับหลายฝ่ายที่ประเมินว่า จุดเปลี่ยนของการเมืองครั้งนี้ คือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องสถานะภาพของนายกรัฐมนตรี ข้อเสนอการเจรจาจึงกลับมาอีกรอบ
ดังนั้น 10 วันต่อจากนี้ จะเป็นการพิสูจน์ความจริงใจของ นายอภิสิทธิ์ และฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ว่าจะแข็งขืนกับ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้มากแค่ไหน
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ยินดีพูดคุยหาทางออกร่วมกับกับ นายอภิสิทธิ์ แต่ นายอภิสิทธิ์ ไม่ควรกำหนดวันมากดดัน
ตัวเอง
นายอนุสรณ์ ยังกล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ขอเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาของประเทศที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันสถานการณ์ 4 ขั้นตอน คือ 1. ทำสัตยาบันร่วมกันของทุกพรรคการเมือง ลงหรือไม่ลงเลือกตั้ง ไม่ใช่อุปสรรค แต่อย่าปลุกระดมเครือข่าย แนวร่วมของพรรคตนเองไปขัดขวางการเลือกตั้ง หากพบและเชื่อมโยง ให้มีโทษยุบพรรค 2. บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เร่งจับกุมตัวผู้ขัดขวางการเลือกตั้งทุกระดับ ไม่จำกัดเฉพาะแกนนำ 3. กกต. เอาจริงเอาจัง ทุ่มเท การบริหารจัดการเลือกตั้งให้มากกว่านี้ ร่วมกับ กองทัพ หน่วยงานความมั่นคง ช่วยกันทำให้การเลือกตั้งเกิด พบทุจริตการเลือกตั้ง ให้ยุบพรรค และ 4. หลังการเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่ ผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง ต้องทำการปฏิรูปประเทศ แก้ไขกติกาเลือกตั้ง ให้ทุกฝ่ายยอมรับ ภายในเวลา 12-18 เดือน หรือเวลาที่ทุกฝ่ายเห็นเหมาะสม ยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่