อย่าออกตัวแรง
ฟุตบอล : ระวัง! อย่ามองข้ามความปลอดภัย เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน สัจธรรมที่ได้ยินกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก ดังนั้นจะทำอะไรไม่ควรตั้งอยู่บนความประมาท อย่ามั่นใจจนเกินเหตุ ทำอะไรต้องเผื่อพลาดบ้าง การออกตัวแรงดีใจล่วงหน้าแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ปีนขึ้นที่สูงไปจะตกลงมาเจ็บมันก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
พฤติกรรมออกตัวแรงเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ไม่เว้นแม้แต่คนที่นิยมชมชอบกีฬาฟุตบอล โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีอะไรแปลกใหม่ ยกตัวอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สั่งปลด เดวิด มอยส์ เซ่นผลงานห่วยของทีมแล้วตั้ง ไรอัน กิ๊กส์ นักเตะรุ่นลายครามของ "ปีศาจแดง" ขึ้นเป็นกุนซือชั่วคราว ก็ทำให้แฟน "ผี" ทั้งในและนอกต่างแสดงอาการออกตัวแรงกันเป็นแถว
เพราะเจ้าประคุณทำผลงานได้สะเด่าเร้าใจคนดูด้วยการสั่งปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รีสอร์ทแอนด์สปาของ มอยส์ แล้วเปิดใหม่เป็นโรงเชือดและเริ่มด้วยการฆ่า "นกขมิ้น" โชว์ก่อน 4-0
ไรอัน กิ๊กส์ คืนรอยยิ้มให้เแฟนผีแดงสำเร็จ
ด้วยผลงานขนาดนี้ ทำให้บรรดาแฟนบอล "ปีศาจแดง" ที่ก่อนหน้านี่หลบเร้นกายจากโลกภายนอก ไปพักสงบใจตามวิถีแต่ละคนออกมาดี๊ด๊าประหนึ่งทีมกำลังลุ้นแชมป์ก็ไม่ปาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำเป็นปลีกตัวเงียบเร้นกายตามขุนเขาเหมือนจอมยุทธ์ในหนังจีน
ที่ผมอยากบอกอยากเตือนเพราะเป็นห่วงนั่นแหละ ผลงานตอนนี้อาจจะดีจริงเพราะมีการเปลี่ยนแปลง แต่อย่าลืมว่านัดแรกที่ มอยส์ คุมทีมเล่นในลีก ก็ชนะ สวอนซี 4-1 เลยทีเดียว แถมรูปเกมก็เหนือกว่าแบบนี้แหละ ไม่อยากให้รีบ "ออกตัวแรง" กันเกินไป เล่นดีหน่อยก็ "เรากลับมาแล้ว" "เราจะผงาด" "เราเชื่อมั่นในตัว กิ๊กส์" หรืออะไรก็ตามที่แฟนทีมนี้จะสรรหามาชื่นชมกุนซือคนใหม่ ผมกลัวเหลือเกินว่าคนเหล่านี้จะต้องเจ็บ
เปิดตัวได้เยี่ยมและได้รับการยอมรับจากแฟนผีว่า...น่าจะทำได้
อย่าลืมว่านี่แค่เกมแรก และกิ๊กส์ ก็แค่กุนซือไร้ประสบการณ์ แม้จะซึมซับหลายอย่างจาก เซอร์ อเล็กซ์ มาได้หลายเม็ดก็ตาม ทุกอย่างยังต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งหากพูดกันตามตรงแล้ว 3 นัดที่จะมี "ปีกพ่อมด" คนนี้กุมบังเหียน "ปีศาจแดง" ยังไม่พอด้วยซ้ำไป อย่าลืมว่านี่คือรักษาการ ดังนั้นบอร์ดบริหารยังต้องเฟ้นหา "ตัวจริง" ที่จะมานั่งเก้าอี้นี้ต่อไป และไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เวลาก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ผลงานเขาเช่นกัน
อย่างที่เห็นกันก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูฯ ในยุคของ มอยส์ เป็นเพียงตัวตลกในสายตาทีมคู่แข่ง เป็นแมวเหมียวไร้เขี้ยวเล็บไม่ใช่พยัคฆ์ร้ายที่น่ายำเกรงอีกต่อไป รูปเกมปวกเปียก นักเตะเล่นกันแบบไม่มีใจ ซึ่งหากพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว ความผิดก็ไม่ได้ตกที่ มอยส์ คนเดียว แต่บรรดานักเตะก็ควรมีส่วนรับผิดชอบด้วย นั่นเป็นความจริงที่เลี่ยงไม่ได้
แต่สิ่งที่ช่วยพิสูจน์กุนซือชาวสกอตคนนี้คือเวลา 10 เดือนใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ไม่สามารถบังคับพวงมาลัยพาทีมกลับเข้าสู่เส้นทางที่เหมาะที่ควรได้อย่างตลอดรอดฝั่งอีกเลย
อย่าลืมว่า มอยส์ ก็เคยพา "ปีศาจแดง" ถล่ม นอริช 4-0 ได้เช่นเดียวกับ กิ๊กส์ ในเกม แคปิตอลวัน คัพ ดังนั้นก็บอกไม่ได้เช่นกันว่า กิ๊กส์ เจ๋งกว่า ทำให้คำตอบเดิมคือ "เวลา" จะเป็นเครื่องการันตีเจ้าของหมายเลข 11 ของทีมคนนี้เอง
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงต่อว่าผมว่ากำลังดูถูกคนอ่าน ดูถูกกองเชียร์ ดูถูกความคิดเห็นคนอื่นอยู่ เปล่าครับ ผมไม่มีเจตนาแบบนั้นแม้แต่น้อย ผมเคารพทุกคน ยืนยันทุกคนสามารถเห็นต่าง คิดต่าง มีความฝันความเชื่อในแบบของตัวเองได้โดยที่ไม่เดือดร้อนใคร
เพียงแค่เชื่อว่าเวลานี้ยังไม่เหมาะไม่ควรทั้งนั้นกับการสรรเสริญเยินยอทั้งปวง จนกว่าทุกอย่างจะได้พิสูจน์ตามวิถีของมันเองแล้วมากกว่า แต่หากคุณรับได้กับผลที่จะตามมาจากการออกตัวแรงของคุณเช่นการ โดนล้อยันลูกบวช การเจ็บใจ ความพ่ายแพ้ หรืออะไรก็ตาม ถ้ารับได้ ก็เอาเลยไม่ผิดอะไรอยู่แล้ว ผมก็แค่หวังดีเท่านั้น ^^
อาจเพราะวิ่งออกตัวแรงไป เฮียเจิดจึงพลาด แล้วจะโดนล้อยันลูกบวชแบบนี้...อิอิ..อิอิ...อิอิ
ที่บอกแบบนั้นเพราะการออกตัวแรงทำให้กองเชียร์บางทีมเจ็บมาแล้วนะครับ ฉลองตั้งแต่ยังไม่ได้ถ้วย แล้วตอนนี้สถานการณ์ก็ไม่อยู่ในมือตัวเองอีกต่อไป ความแน่นอนก็ไม่แน่นอนเสียแล้ว ใครจะรู้ว่ากัปตันทีมที่ทุกคนชาบูจะลื่นล้มจนเป็นเหตุให้โดนฉกบอลไปทำประตู ดังนั้นการออกตัวแรงอาจทำให้เจ็บได้ ผมไม่ได้พาดพิงใครนะครับ อย่า "มโน" ไปเอง
"FIATTA"