แค่บารมี คงยังไม่พอ!

 

ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว เวลาประมาณ ตี 3 กว่าๆ ณ ชั้น 7 ของอาคารบริษัท สยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย  มีนักข่าวอยู่ 3 ชีวิตบนตึก ต่างคนต่างนั่งทำงานที่ตนเองได้รับมอบหมาย เฉกเช่นเดียวกับนักข่าวหน้าใหม่อย่างผม ที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่อย่างขะมักขะเม้น ทันใดนั้น ขณะที่บรรยากาศในออฟฟิศกำลังเงียบๆ นิ่งๆ อึมครึมๆ ได้มีเสียงนึงดังขึ้นทางด้านหลังของผม เสียงนั้นมันลอยมาจากมุมห้อง คุณเชื่อมั้ย? เสียงนั้นตามหลอกหลอนผมมาจนถึงวันนี้ ตอนนี้! ผมนั่งคิดถึงเสียงนั้นทุกวันๆ. ..

 

อ่านมาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงกำลังงง ว่านี่ตรูกำลังอ่าน Sport Guru หรือ อ่าน The shock อยู่กันแน่วะ?  ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องตกใจครับ เสียงที่ผมได้ยินมันไม่ใช่เสียงผีสางนางไม้ที่ไหนหรอกครับ หากแต่เป็นเสียงของพี่ท้อป บรรณาธิการของ Sport Guru ซึ่งทุกท่านกำลังอ่านอยู่นี่ละครับ. "ชิน พื้นที่สกู๊ปวันจันทร์ว่างอยู่ เอ็งลองเขียนดูละกันนะ ลองคิดหัวข้อที่เกี่ยวกับบอลนอกแล้วก็ลองเขียนดูเลย เริ่มส่งต้นฉบับอาทิตย์หน้าเลยนะ" นั่นคือคำพูดที่พี่ท้อป บก.สุดหล่อบอกกับผม. "ครับได้พี่" คือคำตอบสั้นๆ ที่นักข่าวป้ายแดง ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ในการเขียนสกู๊ปมาก่อนอย่างผมจะสามารถตอบกลับไปได้ .. . ใช่แล้วละครับ ต่อจากนี้ไปผมจะเข้ามารับหน้าที่เขียนสกู๊ปลงที่นี่ทุกๆ วันอังคาร. ยังไงก็ถือซะว่าผมขอใช้ 2 ย่อหน้านี้เพื่อเป็นการแนะนำตัวของผมละกันนะครับ

 

 หลังจากนอกเรื่องมานาน เรามาว่ากันเรื่องหัวข้อของเราในวันนี้ดีกว่า. อย่างที่ทราบกันดีว่า ไรอัน กิ๊กส์ ปีกซ้ายระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือผู้ที่เข้ามาจุดความหวังให้กับเหล่าสาวก "ปีศาจแดง" และ ทำให้เกมที่เหลือในลีกซีซั่นนี้ของยูไนเต็ด กลับมามีค่าอีกครั้งนึง หลังจาก "ปีกพ่อมด" เข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมชั่วคราวแทนที่กุนซือผู้ถูกเลือก(ผิด)อย่าง เดวิด มอยส์ และ ประเดิมการคุมทัพนัดแรกได้อย่างสวยงาม ราวกับบทละครที่พระเจ้าได้บัญญัติมา ด้วยการสั่งปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด รีสอร์ท แอนด์ สปา ไล่ถลุงผู้มาเยือนอย่าง นอริช ซิตี้ เละเทะ 4-0 ทำให้แฟนบอลผีแดง กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งนึง

 

                                                                                 แฟนบอลตัวน้อย ชูป้ายแสดงความเชื่อมั่นในตัวปีกพ่อมด

 

หลังจบเกมถล่ม "นกขมิ้น" สาวกอสูรต่างส่งเสียงโห่ร้อง ชื่นชมกึกก้อง หรือแถวบ้านผมเรียกอาการนี้ว่าการ "ออกตัวแรง" นั่นเอง บ้างก็ว่า "นี่สิผู้ถูกเลือกตัวจริง" บ้างก็ว่า "สุดยอดตำนานของแท้" บ้างก็ว่า "ไม่ต้องหากุนซือใหม่แล้ว คนนี้แหละตัวแทนป๋า" บลาๆๆๆ เป็นร้อยๆ เป็นล้านๆ คำชมจากทั่วทุกมุมโลกต่างมอบให้กับกุนซือมือใหม่แต่หน้าเก่าผู้นี้ ทว่า ทางเดินสู่ความสำเร็จ ย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอ. . . ซันเดอร์แลนด์ คือทีมที่เปิดซิงยัดเยียดความปราชัยนัดแรกในฐานะกุนซือให้กับ ไรอัน กิ๊กส์ หลังจาก "แมวดำ" บุกไปตะปบเอาชนะ "ผีแดง" ไปได้ 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (3 พค.)

 

ลีลา การติวเข้มลูกทีม

 

จริงอยู่ ด้วยประสบการณ์การลงเล่นภายใต้บรมกุนซืออย่าง "เฟอร์กี้" เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาตลอด 20 กว่าปีในสีเสื้อของยูไนเต็ดเพียงสโมสรเดียวเท่านั้น กิ๊กส์ก็คงจะอาศัยวิชา "ครูพักลักจำ" จำเทคนิคการคุมทีมจากป๋ามาบ้างไม่มากก็น้อย บวกกับพรรษาที่แก่กล้า ในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด ส่งผลให้ ไรอัน กิ๊กส์ มี "บารมี" ที่ทำให้นักเตะคนอื่นๆ ในทีมต้องยำเกรง และ เชื่อฟัง ทว่า บารมีอย่างเดียวมันไม่พอครับ สิ่งที่ กิ๊กส์ ขาดก็คือประสบการณ์ในการคุมทีม. ถ้วยแชมป์ที่เขาสะสมมาได้เต็มตู้โชว์ ในฐานะนักเตะ ไม่ใช่เครื่องการันตีว่าจะเป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จได้ รวมไปถึงการแก้เกม การจัดตัว การวางแท็คติก แผนการฝึกซ้อม และ อื่นๆ อีกมากมายที่ผู้จัดการทีมจะต้องทำ และ ต้องเรียนรู้ ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ "บารมี" อย่างเดียว เอาไม่อยู่ครับ

 

 

อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าคงมีหลายคนอาจจะเริ่มไม่พอใจผม หรือ คิดต่างจากนี้ ก็นานาจิตตังครับ ไม่ว่ากัน สำหรับผม ขอออกตัวก่อนเลยครับว่า ผมเป็นสาวกปีศาจแดงแบบเต็มตัว ยิ่งไปกว่านั้นสาบานให้บ้านไฟใหม้เลยว่า ไรอัน โจเซฟ กิ๊กส์ คือไอดอลของผมเพียงคนเดียว ที่ผมเคารพบูชา อย่างบ้าคลั่งมาตั้งแต่จำความได้ มีรูปโปสเตอร์ติดเต็มห้อง มีเสื้อปักเบอร์ 11 เต็มตู้ มีของจิปาถะที่เกี่ยวกับตำนานผู้ยังมีลมหายใจคนนี้เต็มบ้าน แต่ให้ตายเถอะ ถ้าถามว่าผมอยากให้ ไอดอลของผมคนนี้ เป็นผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบถาวรมั้ย? คำตอบคือ อยากแน่นอน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ!!