"เต้น" ถาม "ตั๊น" จริงหรือไม่ "ผู้ปกครอง" โร่กดดัน "นายทหารใหญ่" ให้รัฐประหาร

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ปราศรัยที่มีนบุรีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม โดยกล่าวตอนหนึ่ง ถึง นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น แกนนำ กปปส. ว่า จริงหรือไม่ที่ผู้ปกครองของนางสาวจิตภัสร์ ไปกดดันให้นายทหารใหญ่ทำการรัฐประหาร

"คืนนี้ผมจำเป็นที่ต้องพูดถึงสุภาพสตรีคนหนึ่งผมดูแล้วเธอคงอายุน้อยกว่าผมผมคงเรียกเธอว่าน้องได้ส่วนเธอจะเรียกผมว่า"พี่"หรือ"ไอ้" ก็ช่างเถอะครับ ผมไม่ถือสา ผมจะขอพูดกับน้องตั๊นหน่อย... ถามว่า ผมจะพูดกับน้องตั๊น ทำไมไม่หาโอกาสพูดกันข้างล่าง ต้องเอามาพูดบนเวที ก็ตอบว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวระหว่าง "เต้น" กับ "ตั๊น" เพราะ เต้น กับ ตั๊น เราไม่มีอะไรที่จะสนทนาเป็นวาระส่วนตัวระหว่างกัน แต่ผมจะพูดกับน้องตั๊นว่า น้องตั๊นจะแสดงเสรีภาพทางการเมือง ผมไม่ว่านะครับ ทั้งๆ ที่ผมไม่เห็นด้วยกับแนวทางทั้งหมดที่ทำกันอยู่ แต่ถือเป็นเสรีภาพ ถ้าผิดกฎหมายก็รับผิดชอบกันไป

น้องตั๊นจะไปปิดจะไปล้อมอะไรที่ไหน ก็เชิญเถอะ พี่ไม่ถือสา แต่จะถามน้องตั๊นหน่อยว่า มันจริงไหม ที่เมื่อไม่กี่วันเนี่ย ผู้ปกครองของน้องตั๊น ไปนั่งคุยกับนายทหารใหญ่ ยุยงส่งเสริมให้นายทหารกลุ่มนั้น ทำการยึดอำนาจ ทำการรัฐประหาร มันทำอย่างนั้นกันจริงไหม ต้องเข้าใจนะ ว่าน้องตั๊น จะมาชุมนุมนกหวีด ก็เรื่องหนึ่ง แต่ถ้าผู้ปกครองของน้องตั๊น ไปเที่ยวยุยงส่งเสริม ให้นายทหารใหญ่ เช่น ที่อยู่ใน 5 เสื้อ ทบ.คนหนึ่ง เช่น ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง คุมกำลังสำคัญในกรุงเทพคนหนึ่ง ชื่อเหมือนเสื้อที่เราใส่กันอยู่นี่แหละ แล้วไปหว่านล้อมไปกดดันกันจะให้ยึดอำนาจ

อย่าทำอย่างนั้นเลยครับ ให้ถือว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ถ้ามันจริง ก็เท่ากับว่า เป็นความมืดบอดทางสติปัญญาของคนที่คุยกัน แต่เมื่อเรื่องมันแดงออกมาแล้ว ผมก็ส่งเสียงเตือนจากเวทีนี้ ว่าใครก็ตาม ที่คิดกระทำการยึดอำนาจ คิดรัฐประหารในสถานการณ์นี้ ท่านก็เตรียมสักคำว่า "ทรราชย์" ไว้บนหน้าผากตัวเอง จนชั่วกัลปวสาน

โชคยังดีอยู่นี่นะครับ ที่บิ๊กเบอร์1 ของกองทัพ ยังยืนมั่นคง ขาแข็งอยู่ว่าทุกอย่างต้องเดินไปตามกฎหมาย จะต้องเดินไปตามกติกา ส่วนกลุ่มคนที่ไปคุยกับผู้ปกครองของน้องตั๊น ถ้ามันจริงอย่างที่ผมว่า เราพูดกันแบบนักเลงดีกว่า ได้ข่าวว่า พวกท่านก็นักเลง ไอ้ผมก็คนหนึ่ง เกิดมาไม่มีหน้าที่กลัวใคร เอากันง่ายๆ ว่า ผมขอเรียกร้องในนามประชาชน ถ้าท่านเผลอใจคิดไปแล้ว ขอความกรุณาหยุดคิดเถอะครับ

ถ้าท่านเตรียมการที่จะทำไปแล้ว ขอความกรุณา ล้มเลิกการเตรียมการเถอะครับ ไม่มีทางที่ท่านจะยืนยงอยู่ได้ ภายใต้บทบาทของผู้นำคณะรัฐประหาร ไม่มีทางที่ท่านจะดำรงอำนาจได้อยู่นาน ภายใต้การเอารถถังออกมาปล้นประชาชน ท่านจะยืนอย่างสง่างาม ได้ก็ต่อเมื่อท่านยืนตามกฎ ตามกติกา ตามกรอบของกฎหมาย แต่ถ้าท่านเดินออกมาแล้วมาทำลายประชาธิปไตยของประชาชน ท่านอาจจะกลายเป็นคนที่เดินถนนก็ไม่ได้ในอนาคตข้างหน้า

ผมทราบครับ ว่าท่านก็มีเขี้ยวมีเล็บ ท่านก็มีฤทธิ์มีเดชกันไม่ใช่น้อยๆ แต่ละคนแต่ละท่าน ผมไม่มีอะไรหรอกครับ ผมมีมือเปล่าๆ ผมมีตัว ผมมีหัวใจ แต่ผมกล้าที่จะเอาทั้งหมด ทุกอย่างที่ผมมี แลกกับการปกป้องหลักการประชาธิปไตยร่วมกับประชาชนทั้งหลาย

เราพร้อมที่จะตายโดยไม่พ่ายแพ้ดีกว่าอยู่อย่างถูกเหยียบย่ำและดูแคลนศักดิ์ศรีตลอดไป"