โหดเหี้ยม! ผัวเนปาลจุดไฟเผาเมียท้องแก่ ทวงค่าสินสอด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หญิงสาวตั้งครรภ์ 7 เดือน ถูกราดน้ำมันก๊าซและจุดไฟเผาทั้งเป็น จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ โดยผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้คือสามีและครอบครัวฝ่ายสามี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมอย่างเข้มข้น

ตามรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศเนปาล เร่งติดตามดำเนินคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวตั้งครรภ์ 7 เดือน หลังจากที่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่าน นายฟาริธ ชีค ดาห์ฟาลี ได้ก่อเหตุใช้น้ำมันก๊าซราดใส่ร่างภรรยาที่ตั้งครรภ์ ก่อนจะจุดไฟเผาทั้งเป็น ก่อนจะอ้างว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุและพาภรรยามารักษาตัวที่ประเทศอินเดีย

ต่อมาหญิงสาวตั้งครรภ์เริ่มมีอาการทรุดหนัก ก่อนจะสูญเสียลูกในครรภ์ตั้งแต่ยังไม่ได้ลืมตาดูโลก เมื่อพ่อแม่ของหญิงสาวเดินทางมาเยี่ยม จึงได้เล่าความจริงทั้งหมด โดยระบุว่า สามีเป็นผู้จุดไฟเผาทั้งเป็น โดยมีครอบครัวของฝ่ายสามีรู้เห็นเป็นใจและช่วยกันก่อเหตุครั้งนี้ด้วย ทำให้พ่อของหญิงสาวเข้าแจ้งความดำเนินคดี

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ครอบครัวของนายฟาริธ มีเบาะแสย้ายมาอาศัยอยู่ที่เมืองไฮเดอราบาด รัฐอานธรประเทศ ประเทศอินเดีย แต่จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า ทั้งหมดได้หลบหนีไปแล้ว ส่วนประเด็นการก่อเหตุเบื้องต้นพบว่า เกิดการปมปัญหาเรื่องค่าสินสอด เนื่องจากครอบครัวฝ่ายสามีพยายามทวงถามเรียกค่าสินสอดจากฝ่ายหญิง ซึ่งประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ 1 คัน และควาย 1 ตัว ซึ่งทางฝ่ายยังไม่ได้ให้

ล่าสุดทางกลุ่มสิทธิมนุษยชนเนปาลได้รับตัว หญิงสาวตั้งครรภ์เคราะห์ร้ายคนดังกล่าว กลับมารักษาตัวที่ประเทศเนปาล อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากผิวหนังหลายส่วนถูกไฟไหม้จนติดเชื้อรุนแรง อีกทั้งยังพบร่องรอยการถูกทำร้างร่างกายหลายแห่ง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นผลพ่วงมาจากการทวงถามค่าสินสอด

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นเรื่องค่าสินสอดแต่งงานตามหลักประเพณีของประเทศเนปาลและอินเดีย ตั้งแต่ในอดีต ฝ่ายหญิงต้องเป็นฝ่ายนำสินสอดมาสู่ขอฝ่ายชาย แม้ว่าปัจจุบันได้มีการออกข้อกฎหมายยกเลิกหลักประเพณีดังกล่าวไปแล้ว แต่ชาวบ้านยังคงยึดหลักความเชื่อในท้องถิ่นและปฏิบัติตามหลักความเชื่อเดิมอยู่ ซึ่งทำใหยังคงพบเห็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับหญิงที่แต่งงานเกี่ยวกับประเด็นเรื่องค่าสินสอด