คืบระเบิดหาดใหญ่จนท.เร่งรวบรวมหลักฐานหาคนร้าย
เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมหลักฐานเหตุระเบิด ที่ อ.หาดใหญ่ทั้งสองจุด เพื่อส่งตรวจพิสูจน์การเชื่อมโยงหาเบาะแสของคนร้าย ขณะที่เหยื่อระเบิดกลับบ้านได้แล้ว 6 ราย
ความคืบหน้าเหตุระเบิดสองจุดที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งที่หน้าร้านเซเว่นฯสาขาถนนพลพิชัย และที่ สภ.หาดใหญ่ ล่าสุด พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร พนักงานสอบสวน สบ.4 และเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานได้รวบรวมหลักฐานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุระเบิดทั้งสองจุด ซึ่งพบหลักฐานสำคัญหลายอย่างทั้งชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ ชิ้นส่วนระเบิดทั้งแบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ แผ่นวงจร ซิมการ์ดมินิของเอไอเอส รวมทั้งโลหะชิ้นส่วนเหล็กที่เป็นสะเก็ดระเบิด โลหะชิ้นส่วนหุ้มระเบิด สายไฟเสียบแบตเตอรี่เศษชิ้นส่วนภาชนะบรรจุระเบิดถังแก๊ส ชิ้นส่วนป้ายทะเบียนรถยนต์ ผค 2703 ซึ่งทำขึ้นเอง1 แผ่น มือจับประตูรถยนต์ด้านคนขับ เพื่อแยกส่งไปตรวจพิสูจน์ทั้งที่ศูนย์ข้อมูลระเบิดจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน10 รวมทั้งตรวจดีเอ็นเอจากร่องรอยของหลักฐานที่เก็บได้เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเชื่อมโยงหาเบาะแสคนร้ายส่วนรถกระบะต้องสงสัยสีน้ำเงินที่ขับเข้าออก สภ.หาดใหญ่ ในช่วงเกิดเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเจ้าของมาสอบสวนแล้วพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดแต่อย่างใด
ส่วนบรรยากาศที่ สภ.หาดใหญ่ แม้จะได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดกระจกหน้าต่างแตก แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงเปิดให้บริการประชาชนตามปกติและทำงานท่ามกลางเศษซากความเสียหายและยังคงมีกำลังใจที่ดี โดยได้เร่งทำความสะอาดและเคลียร์พื้นที่ ส่วนจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถนั้นยังกันเป็นพื้นที่หวงห้ามเพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับรถยนต์คาร์บอมบ์ที่ สภ.หาดใหญ่ นั้นจากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผต 81 สงขลา ที่ถูกปล้นมาจากหน้าร้านสุกรี หมู่1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปตตานี และตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ได้ตรวจยึดไว้หลังจากที่นำมาจอดไว้ในเมืองหาดใหญ่และตรวจสอบพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอมจึงลากมาเก็บไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ เมื่อสามวันก่อนกระทั่งเกิดเหตุระเบิดขึ้น ส่วนเบาะของคนร้าย พล.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค9 ได้เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนสามทั้งของภาค9 ภูธรจังหวัดสงขลา และของ สภ.หาดใหญ่ เพื่อเร่งแกะรอยหาเบาะแสของคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายขับรถทั้งสองคันมาจอดไว้