ทำดีสุดแล้ว! ไทยพ่ายยุ่น 2-3 จอดรอบ8ทีมฟุตซอลเอเชีย
ฟุตซอลทีมชาติไทยเล่นสุดกำลังพ่าย ญี่ปุ่น 2-3 จอดอยู่ที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่เวียดนาม
รอบ 8 ทีมสุดท้ายของการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 13 หรือ "เอเอฟซี ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ เวียดนาม 2014 ในวันพุธที่ 7 พ.ค. 2557 ที่สนามมหาวิทยาลัย โตนดึ๊กถัง เมืองโฮจิมินห์ ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ทีมชาติไทย อันดับที่ 16 ของโลก ที่ 1 กลุ่มซี พบกับ ญี่ปุ่น อันดับที่ 13 ของโลก ในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มดี
สถิติคู่นี้พบกันมา 16 ครั้ง ไทยชนะ 5 ครั้ง เสมอ 1 ญี่ปุ่นชนะ 10 ครั้ง ใน 2 นัดที่เจอกันล่าสุดญี่ปุ่นเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้หมดด้วยสกอร์ 6-1 ในนัดชิงชนะเลิศฟุตซอ ลชิงแชมป์เอเชีย 2012 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2555 และ วันที่ 19 พ.ย. 2556 การแข่งขัน 4 เส้าที่เมืองโฮจิมินห์ ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ญี่ปุ่นชนะ 3-0 โดยในนัดนี้ทีมชาติไทย ไม่มี กฤษดา วงษ์แก้ว ที่ติดโทษแบน และ อัสมิง ตาเละ ที่บาดเจ็บ ซึ่ง 5 คนแรกประกอบไปด้วย คฑาวุธ หาญคำภา (GK), จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, ก้องหล้า เหล็กกล้า, เจษฎา ชูเดช และ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง
เปิดฉากมารูปเกมไทยดูดีกว่า น.5 ปิยพันธุ์ รัตนะ ฉีดยาระยะราว 7 เมตร บอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ทว่า น.7 ญี่ปุ่น มาได้ประตูออกนำก่อน 1-0 จาก คาซูฮิโร่ นิบูยะ หลังจากโดนนำไทยเปิดเกมใส่ทันที น.10 เจษฎา ชูเดช หลุดไปซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบ บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย ผ่าน 10 นาทีแรก สกอร์ยังเป็นญี่ปุ่น ที่ออกนำ 1-0
ไทยได้ลุ้นตีเสมออีกครั้ง น.12 ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ตัดบอลได้จากกลางสนาม ก่อนกระชากไปจิ้มด้วยขวา บอลติดเซฟนายทวารญี่ปุ่น กระดอนออกมาไม่มีใครซ้ำ แต่ น.14 ญี่ปุ่น ได้ประตูห่างเป็น 2-0 จากจังหวะผิดพลาดของไทย โนบูยะ โอโซโดะ ตัดบอลได้ก่อนหลุดไปล็อคหลบ คฑาวุธ แล้วซัดเข้าไป
หลังจากนั้น ญี่ปุ่น ทำฟาลว์รวมไป 5 ครั้ง โดยเหลือเวลาในครึ่งแรก 3 นาที และช่วง 5 วินาทีสุดท้าย ไทยได้จุดโทษจุดที่สองจากการฟาวล์รวมครบ 6 ครึ่งของญี่ปุ่น และเป็น ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง รับหน้าที่สังหารเข้าไป ไทย ไล่มา 1-2 ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง ทีมชาติไทย เปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที และโอกาสแรกมาใน น.22 จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ได้ซัดด้วยขวาระยะประมาณ 6 เมตร ติดเซฟออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาอีก 2 นาที ญี่ปุ่นได้ลุ้นบ้าง เรียวสุเกะ นิชิทานิ ซัดด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษบอลเฉียดเสาสองไปนิดเดียว
มาถึง น.25 ทีมชาติไทย ได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะสวนกลับ วิวัฒน์ ไทยเจริญ ปาดจากซ้ายมาเสาสองให้ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร วิ่งมาแปเต็มแรง ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม และอีกสองนาทีถัดมาไทยเกือบได้พลิกขึ้นนำ ศุภวุฒิ ซัดด้วยขวาเต็มเหนี่ยวระยะราว 10 เมตร บอลพุ่งหลุดกรอบไปนิดเดียว
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้ายสกอร์ยังเสมอกัน 2-2 โดยรวมเกมต้องบอกว่าเป็นไทยที่ครองบอลเหนือกว่า ทว่ายังเจาะประตูที่ 3 ไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม น.36 เป็นทางฝั่งญี่ปุ่นมาได้ประตูออกนำอีกครั้งเป็น 3-2 จาก คาโอรุ โมริโอกะ ช่วงเวลาที่เหลือบีบให้ไทยต้องเปลี่ยนมาเล่นพาวเวอร์เพลย์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบเกม ทีมชาติไทย พ่ายต่อ ญี่ปุ่น ไปแบบหวุดหวิด 2-3 จอดอยู่ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
รอบ 8 ทีมสุดท้ายของการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 13 หรือ "เอเอฟซี ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ เวียดนาม 2014 ในวันพุธที่ 7 พ.ค. 2557 ที่สนามมหาวิทยาลัย โตนดึ๊กถัง เมืองโฮจิมินห์ ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ทีมชาติไทย อันดับที่ 16 ของโลก ที่ 1 กลุ่มซี พบกับ ญี่ปุ่น อันดับที่ 13 ของโลก ในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มดี
สถิติคู่นี้พบกันมา 16 ครั้ง ไทยชนะ 5 ครั้ง เสมอ 1 ญี่ปุ่นชนะ 10 ครั้ง ใน 2 นัดที่เจอกันล่าสุดญี่ปุ่นเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้หมดด้วยสกอร์ 6-1 ในนัดชิงชนะเลิศฟุตซอ ลชิงแชมป์เอเชีย 2012 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2555 และ วันที่ 19 พ.ย. 2556 การแข่งขัน 4 เส้าที่เมืองโฮจิมินห์ ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ญี่ปุ่นชนะ 3-0 โดยในนัดนี้ทีมชาติไทย ไม่มี กฤษดา วงษ์แก้ว ที่ติดโทษแบน และ อัสมิง ตาเละ ที่บาดเจ็บ ซึ่ง 5 คนแรกประกอบไปด้วย คฑาวุธ หาญคำภา (GK), จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, ก้องหล้า เหล็กกล้า, เจษฎา ชูเดช และ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง
เปิดฉากมารูปเกมไทยดูดีกว่า น.5 ปิยพันธุ์ รัตนะ ฉีดยาระยะราว 7 เมตร บอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ทว่า น.7 ญี่ปุ่น มาได้ประตูออกนำก่อน 1-0 จาก คาซูฮิโร่ นิบูยะ หลังจากโดนนำไทยเปิดเกมใส่ทันที น.10 เจษฎา ชูเดช หลุดไปซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบ บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย ผ่าน 10 นาทีแรก สกอร์ยังเป็นญี่ปุ่น ที่ออกนำ 1-0
ไทยได้ลุ้นตีเสมออีกครั้ง น.12 ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ตัดบอลได้จากกลางสนาม ก่อนกระชากไปจิ้มด้วยขวา บอลติดเซฟนายทวารญี่ปุ่น กระดอนออกมาไม่มีใครซ้ำ แต่ น.14 ญี่ปุ่น ได้ประตูห่างเป็น 2-0 จากจังหวะผิดพลาดของไทย โนบูยะ โอโซโดะ ตัดบอลได้ก่อนหลุดไปล็อคหลบ คฑาวุธ แล้วซัดเข้าไป
หลังจากนั้น ญี่ปุ่น ทำฟาลว์รวมไป 5 ครั้ง โดยเหลือเวลาในครึ่งแรก 3 นาที และช่วง 5 วินาทีสุดท้าย ไทยได้จุดโทษจุดที่สองจากการฟาวล์รวมครบ 6 ครึ่งของญี่ปุ่น และเป็น ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง รับหน้าที่สังหารเข้าไป ไทย ไล่มา 1-2 ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง ทีมชาติไทย เปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที และโอกาสแรกมาใน น.22 จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ได้ซัดด้วยขวาระยะประมาณ 6 เมตร ติดเซฟออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาอีก 2 นาที ญี่ปุ่นได้ลุ้นบ้าง เรียวสุเกะ นิชิทานิ ซัดด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษบอลเฉียดเสาสองไปนิดเดียว
มาถึง น.25 ทีมชาติไทย ได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะสวนกลับ วิวัฒน์ ไทยเจริญ ปาดจากซ้ายมาเสาสองให้ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร วิ่งมาแปเต็มแรง ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม และอีกสองนาทีถัดมาไทยเกือบได้พลิกขึ้นนำ ศุภวุฒิ ซัดด้วยขวาเต็มเหนี่ยวระยะราว 10 เมตร บอลพุ่งหลุดกรอบไปนิดเดียว
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้ายสกอร์ยังเสมอกัน 2-2 โดยรวมเกมต้องบอกว่าเป็นไทยที่ครองบอลเหนือกว่า ทว่ายังเจาะประตูที่ 3 ไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม น.36 เป็นทางฝั่งญี่ปุ่นมาได้ประตูออกนำอีกครั้งเป็น 3-2 จาก คาโอรุ โมริโอกะ ช่วงเวลาที่เหลือบีบให้ไทยต้องเปลี่ยนมาเล่นพาวเวอร์เพลย์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบเกม ทีมชาติไทย พ่ายต่อ ญี่ปุ่น ไปแบบหวุดหวิด 2-3 จอดอยู่ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ทีมชาติญี่ปุ่น จะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับ ทีมชาติคูเวต ที่เอาชนะ ทีมชาติออสเตรเลีย 5-2 ในวันที่ 8 พ.ค. เวลา 15.30 น. ที่พูท๋อ สเตเดี้ยม
จังหวะ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง (แดง) นักเตะทีมชาติไทย โดนผู้เล่นญี่ปุ่นตัดฟาวล์ และเป็นการฟาวล์รวม 6 ครั้ง ของญี่ปุ่น ก่อนจะเป็น เจ้าอารืม ลุกขึ้นมาสังหารเข้าไปให้ไทย ไล่ตามมาในช่วงท้ายครึ่งแรก 1-2
จิรวัฒน์ สอนวิเชียร (แดง) นักเตะทีมชาติไทยพยายามเข้าสกัดบอลจากการครองบอลของผู้เล่นญี่ปุ่น จบเกมฝ่ายหลังเอาชนะไป 3-2
ก้องหล้า เหล็กกล้า (แดง) กัปตันทีมจำเป็นของฟุตซอลไทย พยายามเลี้ยงบอลหนีการเข้าแย่งของผู้เล่นญี่ปุ่น จบเกมฝ่ายหลังเอาชนะไป 3-2