จับตาวิบากกรรมยิ่งลักษณ์ คาด ป.ป.ช.ชี้มูลคดีจำนำข้าววันนี้
จับตา ป.ป.ช.ไต่สวนคดีทุจริตในโครงการจำนำข้าวนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เผยหากชี้มูลฯต้องส่งดำเนินคดีอาญาต่อเนื่อง
ประเด็นร้อนทางการเมืองที่ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ วินิฉัยให้นายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐมนตรีรวม10คน พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากกระทำขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญ กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรีจากตำแหน่งเลขาฯศมช.ไม่เป็นธรรม วันนี้มีคดีที่มีการจับตามองอีกคดีหนึ่ง คือเวลาประมาณ10.00น.จะมีการไต่สวนคดีทุจริตในโครงการจำนำข้าว ของ ป.ป.ช. ที่ตั้งข้อกล่าวหาสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมีการคาดการว่า มีความเป็นไปได้ที่ ป.ป.ช.อาจจะพิจารณาชี้มูลในวันนี้
สำหรับแนวทางที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ จะชี้มูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ต่อข้อกล่าวหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่งผลต่อความเสียหายในโครงการจำนำข้าว มี 2 แนวทาง คือ
หากชี้มูลว่าไม่ผิด คำร้องก็จะตกไป แต่หากชี้มูลว่ามีความผิด ก็จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
แต่เนื่องจากเมื่อวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์พ้นสภาพนายกรัฐมนตรีไปแล้วดังนั้น การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ส่งผลต่อเนื่องในการหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปด้วย
อย่างไรก็ตามขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไป คือ หากผิด ป.ป.ช. จะส่งเรื่องให้กับวุฒิสภาถอดถอด ซึ่งจะต้องได้คะแนนเสียงเกิน 3 ใน 5 หรือ 90 เสียง และแม้ว่าการถอดถอนในทางปฏิบัติจะมีผลต่อเนื่องมาจากผลการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วนั้น แต่ยังมีผลผูกพันทางกฎหมาย ต่อเนื่องปอีก เพราะผู้ที่ถอดถอนจะถูกตัดสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปี
และอีกด้านหนึ่ง หาก ป.ป.ช. พิจารณาแล้วว่ามีมูลยังต้องมีการดำเนินคดีอาญาต่อด้วย โดยจะต้องส่งให้กับศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณา ซึ่งจะมีโทษจำคุก
อย่างไรก็ตามในการพิจารณาของศาลฎีกาฯ นี้ อาจจะต้องใช้ระยะเวลานาน เนื่องจากจะต้องส่งสำนวนผ่านอัยการสูงสุดพิจารณา เพื่อส่งเรื่องให้ศาลฎีกาฯ ดำเนินการ
นอกจากนี้ยังต้องติดตามด้วยว่าการพิจารณาของป.ป.ช.จะมีผลถึงขั้นชี้มูลไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจนเป็นเป็นเหตุให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่
วันนี้จึงถือเป็นวิบากกรรมที่ตามมาอย่างรวดเร็วอีกระลอกที่นายกรัฐมนตรีต้องเผชิญและลุ้นผลการพิจารณาการชี้มูลของป.ป.ช.อย่างใกล้ชิด