วิเคราะห์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิ่ล

วิเคราะห์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิ่ล

วิเคราะห์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิ่ล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิ่ล 

สนาม : แอนฟิลด์

เวลา : 21.00 น.
ถ่ายทอดสด : CTH Stadium 2(57),ไทยรัฐทีวี




ความพร้อมของทั้งสองทีม


ลิเวอร์พูล

จากเหตุการณ์ช็อกเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ที่ "หงส์แดง" บุกไปเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 3-3 ทั้งๆ ที่นำไปก่อน 3-0 ส่งผลให้พวกเขาหล่นมารั้งอันดับ 2 มีอยู่ 81 คะแนน จาก 37 นัด โอกาสคว้าแชมป์ริบหรี่ โดยต้องรอแช่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง ที่มี 83 คะแนน ให้พ่ายแพ้นัดสุดท้ายเท่านั้น
 
แมตช์ปิดซีซั่นนี้ ที่จะเปิดบ้านพบกับ นิวคาสเซิ่ล นั้น "หงส์แดง" ได้ข่าวดีสุดๆ เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์จอมพลัง รับใช้โทษแบน 3 นัด เรียบร้อย และจะกลับมาลงเล่นในเกมนี้ได้แน่นอน บวกกับนักเตะคนอื่นๆ ก็อยู่กันครบครัน จะขาดก็แค่ โฆเซ่ เอ็นริเก้ แบ็กซ้ายเลือด "กระทิงดุ" ที่เดี้ยงยาวคนเดียวเท่านั้น
 
เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องจัดชุดใหญ่ลงสนาม เพราะยังมีลุ้นซิวแชมป์ลีกอยู่ โดย ซิมง มิโญเล่ต์ เฝ้าเสาตามเดิม ส่วนแผงเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ "บีร็อด" ยังมั่นใจ มาร์ติน สเคอร์เทล กับ มามาดู ซาโก้ ส่วนมิดฟิลด์ "เฮนโด้" จะได้ลงสนามอีกครั้ง พร้อมด้วย โจ อัลเลน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และขณะที่ 3 ประสานแดนหน้า ราฮีม สเตอร์ลิง ผนึกกำลังกับ "SAS"
 
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของ ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้, จอน ฟลานาแกน - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน - ราฮีม สเตอร์ลิง, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, หลุยส์ ซัวเรซ
 

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
 
"สาลิกาดง" ภายใต้การคุมทีมของ อลัน พาร์ดิว เพิ่งพาทีมเก็บชัยชนะเหนือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 3-0 พร้อมถีบคู่แข่งให้ตกไปเล่นในลีกรอง เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ ส่วนพวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 49 คะแนน จาก 37 นัด อยู่อันดับ 9 ของลีก ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว
 
เกมออกไปเยือน "หงส์แดง" นั้น หากว่าพวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่อย่างจะน้อยจะจบอันดับท็อป 10 แน่นอน โดยเกมนี้ยังไม่มี ปาปิสส์ ซิสเซ่ หัวหอกชาวเซเนกัล เช่นเดิม หลังถูกส่งตัวผ่านการผ่าตัดหัวเข่าเรียบร้อย เช่นเดียวกับ ดาวิเด้ ซานตัน, ไรอัน เทย์เลอร์ ซึ่งจะพลาดลงสนามเช่นกัน เพราะยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่
 
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียง 2 รายเท่านั้น ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ซึ่งถ้งแม้ นิวคาสเซิ่ล จะไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว แต่เชื่อว่า พาร์ดิว จะจัดชุดใหญ่ลงสนาม นายทวารเป็น ทิม ครูล แผงหลังมี มาติเยอ เดอบูชี่, ฟาบิโอ โกลอชชินี่, ไมค์ วิลเลียมสัน ขณะที่มิดฟิลด์ยังมี ชีค ติโอเต้, มุสซ่า ซิสโซโก้ ส่วนหน้าคู่ใช้ โลอิก เรมี่ กับ โชล่า อเมโอบี้
 
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของ นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล - มาติเยอ เดอบูชี่, ฟาบิโอ โกลอชชินี่, ไมค์ วิลเลียมสัน, มัสซาดิโอ ไอดาร่า - ชีค ติโอเต้, มุสซ่า ซิสโซโก้, ฟูร์น่อน อนิต้า, โยอัน กุฟฟร็อง - โลอิก เรมี่, โชล่า อเมโอบี้
 


สถิติที่น่าสนใจ
• ลิเวอร์พูล ไม่พ่ายคาบ้านต่อ นิวคาสเซิ่ล มาแล้วถึง 20 ปี
• อีกทั้ง "หงส์แดง" ก็ไม่แพ้ให้กับ "สาลิกาดง" ยามได้เล่นในถิ่นแอนฟิลด์ มาแล้ว 18 นัด โดยครั้งสุดท้ายที่แพ้ต้องย้อนไปเมื่อปี 1994 ครั้งนั้นปราชันไป 0-2
• ลิเวอร์พูล ทำได้ 3 ประตู ถึง 4 นัด จาก 5 แมตช์ ที่พบกับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อได้เล่นในถิ่นแอนฟิลด์
• 39 เกมที่พบกันใน พรีเมียร์ ลีก ทั้งคู่ไม่เคยจบเกมด้วยการเสมอกัน 0 - 0 เลยแม้แต่ครั้งเดียว
• "หงส์แดง" เก็บได้เพียง 1 คะแนน จาก 2 แมตช์ล่าสุด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ 11 เกมหลังสุด เก็บได้ถึง 33 คะแนน
• ส่วน "สาลิกาดง" เก็บได้เพียง 3 คะแนน จาก 5 นัดหลังสุดในลีก
• ลิเวอร์พูล เสียไปถึง 49 ประตู ในซีซั่นนี้ มีเพียง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมเดียวเท่านั้น ที่เสียประตูมากกว่าที่ 51 ลูก หากนับแต่ทีมอันดับท็อป 8
• "หงส์แดง" ต้องการอีกประตูเดียว จะยิงครบ 100 ประตู
• ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ยิงในซีซั่นนี้ไปเพียง 42 ประตู และหากนับแต่การออกไปเยือนคู่แข่ง ยิงได้ 19 ประตู เท่านั้น
• 10 นัดหลังสุด เมื่อ 'ลิเวอร์พูล" ได้เล่นในบ้าน พวกเขาชนะถึง 8 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 1 นัด โดยพ่ายต่อ เชลซี 0-2
• ด้าน "สาลิกาดง" ผลงานเกมเยือน ค่อนข้างแย่ เนื่องจาก 7 นัดหลังสุด ชนะแค่ 1 นัด และเสมออีก 1 นัด ที่เหลืออีก 5 แมตช์ แพ้รวด
• หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งซัดไปแล้ว 31 ประตู ต้องการอีก 1 ประตู เพื่อทำสถิติเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดของ พรีเมียร์ลีก ที่แข่งขันกัน 38 นัด
• โลอิก เรมี่ ยิงไป 4 ประตู จาก 7 เกมหลังสุดในลีก

--------------------------------------------------------------

โปรแกรมพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2557 (พร้อมโปรแกรมถ่ายทอดสด)
21.00 น. คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ - เชลซี CTH Stadium 4(59) ,ช่อง9
21.00 น. ฟูแล่ม - คริสตัล พาเลซ CTH Wisdom HD(09)
21.00 น. ฮัลล์ ซิตี้ - เอฟเวอร์ตัน CTH Smile HD(06)
21.00 น. ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด CTH Stadium 2(57),ไทยรัฐทีวี (ทีวีดิจิตอล)
21.00 น. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด CTH Stadium 5(60)
21.00 น. นอริช ซิตี้ - อาร์เซน่อล CTH Stadium 3(58)
21.00 น. เซาแธมป์ตัน - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด CTH Stadium 1(56)
21.00 น. ซันเดอร์แลนด์ - สวอนซี ซิตี้ CTH เก้ายอด(109)
21.00 น. ท็อตแน่ม ฮ็อตเสปอร์ - แอสตัน วิลล่า CTH Sports Spirit(05)
21.00 น. เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน - สโต๊ค ซิตี้ CTH WWE(66)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook