พท.ออกแถลงการณ์7ข้อค้านนายกฯม.7
วันที่ 12 พฤษภาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพท. นำโดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายโภคิน พลกุล ฝ่ายกฎหมายพรรค ร่วมกันอ่านแถลงการณ์เรื่องกระบวนการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายเผด็จการอำนาจนิยม
นายโภคิน กล่าวว่า 1.ความไม่สงบและความแตกแยกที่เกิดขึ้นในสังคมไทยตั้งแต่ปี 2549 จนถึงทุกวันนี้ ล้วนมีสาเหตุมาจากแนวคิดและการดำเนินการของขบวนการที่ต้องการสถาปนาระบอบเผด็จการอำนาจนิยม ขบวนการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กลุ่มมวลชนละเมิดกฎหมาย และองค์กรตามรัฐธรรมนูญหลายองค์กรที่ละเมิดรัฐธรรมนูญ เพื่อกดดันให้ทหารยึดอำนาจ หากทหารยังไม่พร้อมยึดอำนาจ ก็ให้องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญสร้างสุญญากาศ เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง หรือให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. และกลุ่ม กปปส. ได้สถาปนาตนเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์
2.ในช่วง 6 เดือนเศษที่ผ่านมา ขบวนการเผด็จการอำนาจนิยมได้โจมตี ใส่ร้ายป้ายสีและมุ่งทำลายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และแม้จะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการเลือกตั้ง ขบวนการนี้ก็มิได้เคารพในอำนาจของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ คงมุ่งขัดขวางการเลือกตั้งในทุกวิถีทาง ทั้งๆที่คนทั้งโลกและคนไทยส่วนใหญ่เห็นว่าการเลือกตั้งคือ ทางออกของประเทศ
3.องค์กรตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญและ ปปช. ซึ่งมีหน้าที่ต้องให้ความเที่ยงธรรมในคดีต่างๆ ที่มาสู่ตน กลับทำให้ประชาชนผิดหวังด้วยการบิดเบือนหลักกฎหมาย เร่งรัด เร่งรีบดำเนินการกับคดีที่เกี่ยวกับรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ และตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างผิดปกติ ไม่เปิดโอกาสให้แสดงพยานหลักฐานอย่างที่ควรจะเป็น
4.คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ที่วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ สิ้นสุดลง พท.ได้ชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเห็นแล้วว่า ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญในทุกมิติ และที่พิลึกที่สุดก็คือไปวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีคนอื่นที่มิได้ถูกร้องสิ้นสุดลงด้วย อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 40 อย่างชัดแจ้ง เพราะรัฐมนตรีเหล่านั้นมิได้รับทราบข้อกล่าวหา ไม่มีโอกาสชี้แจง โต้แย้ง แสดงพยานหลักฐานแต่อย่างใด การวินิจฉัยขัดรัฐธรรมนูญเช่นนี้ยิ่งกระตุ้น ให้เกิดความโกรธแค้นในหมู่ประชาชนที่รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายของขบวนการเผด็จการอำนาจนิยม ที่จะให้ความขัดแย้งขยายตัวไปสู่ความรุนแรงและกลียุค พท.จึงเห็นว่าความเป็นรัฐมนตรีของรัฐมนตรีทั้งหลายหาได้สิ้นสุดลงไม่ เพราะยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับบุคคลดังกล่าวเลย
5.พท.ขอย้ำอีกครั้งว่า ความพยายามของขบวนการเผด็จการอำนาจนิยมที่ต้องการให้เกิดสุญญากาศเพื่อมีนายกฯ มาตรา 7 หรือนายกฯ นอกรัฐธรรมนูญนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้ เพราะนอกจากจะขัดหลักประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญแล้ว ยังเป็นการไม่บังควรอย่างยิ่งเนื่องจากมีพระราชดำรัสไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องมั่วและไม่เป็นประชาธิปไตย
6.พท.ขอให้ กกต.รีบดำเนินการเลือกตั้งโดยด่วน ตามที่เสนอไว้คือวันที่ 20 กรกฎาคม 2557 เพราะเป็นหนทางแห่งสันติวิธีและเคารพในเจตนารมณ์ของประชาชน อย่าได้พยายามสร้างเงื่อนไขใดๆ ที่เป็นการตอบสนองขบวนการเผด็จการอำนาจนิยมโดยเด็ดขาด เพราะองค์กรของท่าน มีหน้าที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นทางออกของประเทศ หากการเลือกตั้งไม่เกิดขึ้นและเกิดความรุนแรงหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มิได้เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญแล้ว องค์กรตามรัฐธรรมนูญทั้งหลายที่เข้าร่วมขบวนการเผด็จการอำนาจนิยมต้องรับผิดชอบทั้งในทางกฎหมายและ ต่อประชาชน
7.พท.ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและผู้มีหน้าที่รักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย ดำเนินการกับกลุ่ม กปปส. และพวกนอกกฎหมายที่ย่ำยีสิทธิเสรีภาพ ของประชาชนและสื่อมวลชน รวมถึงทำร้ายประชาชน อย่างจริงจัง อย่ายอมให้คนเหล่านี้กระทำการดังกล่าวได้อีกต่อไป พรรคเพื่อไทยขอให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรม และจะยืนเคียงข้างพวกท่านตลอดไป