จตุพรย้ำสว.ชงนายกม.7ไม่ได้ - พท.ยื่นDSIฟันสุรชัย
ประธาน นปช. ฉะ ''สุรชัย'' ทำเกินหน้าที่ ระบุ ปชช. มีสิทธิ์ชุมนุมต่อต้าน การเสนอนายกฯ มาตรา 7 ยันไม่มีค่าจ้างมาชุมนุม ด้าน เพื่อไทย ยื่น ดีเอสไอ ฟัน ''สุรชัย'' สมคบ ''สุเทพ'' หานายกฯ ม.7
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. แถลงเน้นย้ำจุดยืนการชุมนุมทางการเมือง ระบุว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และพรรคประชาธิปัตย์ มีความพยายามร่วมมือกับวุฒิสภา ได้เสนอให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ซึ่งตามกฎหมาย ไม่มีบทบัญญัติใดทำได้ และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย มีสภาพเป็นแค่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เท่านั้น ไม่มีอำนาจในการเสนอ หรือ ร่วมกับบุคคลใด ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ดังนั้นประชาชนจึงมีสิทธิ์ในการชุมนุมต่อต้านโดยสันติวิธี ทั้งนี้ นายจตุพร ได้ฝากไปยังผู้บ่งการหรืออยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าวว่ายิ่งเดินก็ยิ่งแพ้ อีกทั้ง ให้หยุดการกระทำ หรือใส่ร้ายคนเสื้อแดง ว่ามีการขนอาวุธ มาซุ่มไว้ใน จ.ปทุมธานี เพื่อทำร้ายแกนนำ กปปส. ซึ่งที่ผ่านมา หลังจาก กปปส.ย้ายการชุมนุม และตรวจพบอาวุธจำนวนมาก ที่สวนลุมพินี นั้น แสดงให้เห็นแล้วว่า กปปส.ไม่ได้ชุมนุมโดยสงบสันติ
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ยังยืนยันด้วยว่าการชุมนุมของ นปช.ไม่มีค่าจ้างมาแต่อย่างใด ประชาชนมาด้วยอุดมการณ์ที่ผ่านมา เป็นความพยายามกล่าวให้ร้ายจากฝ่ายตรงข้าม
พท.ยื่นดีเอสไอฟัน 'สุรชัย'สมคบ'สุเทพ' หานายกฯม.7
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้เอาผิดกับ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา และกลุ่ม 40 ส.ว. ในกรณีสมคบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. สรรหานายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ผิดกฎหมาย โดย นายพร้อมพงศ์ระบุว่าต้องการให้ดีเอสไอ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนการเพื่อเอาผิด นายสุรชัย ที่จัดประชุมวุฒิสภานอกรอบทั้งที่ไม่มีพระราชกฤษฎีกา รวมทั้งยังได้เชิญ นายสุเทพ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีกบฎ และคดีอื่นๆ รวม 10 ข้อหา เข้าร่วมวงหารือเพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีคนกลางด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และขัดต่อรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ยังถือว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้กระทำผิดฐานเป็นกบฏ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ประกอบมาตรา 86
ด้าน นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอ มีความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว และติดตามความเคลื่อนไหวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่า การกระทำของ นายสุรชัย อาจเข้าข่ายความผิดสนับสนุนให้ก่อการกบฏ โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวนชุดเดิม ที่ทำคดีแกนนำ กปปส.ดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป