"จตุพร"รับหากทำประชามติเสี่ยงแพ้ แต่เป็นทางออกดีที่สุด เผยเรื่องจับอาวุธสงครามให้ดำเนินคดีตรงไปตรงมา
วันนี้ (22 พ.ค.) เวลา 08.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงข่าวที่ เวทีชุมนุม ถ.อักษะว่า การประชุมตามคำเชิญของกองอำนวยการรักษาความสงบ (กอ.รส.) ในบ่ายวันนี้ จะยืนยันข้อเสนอว่าต้องมีการทำประชามติก่อนจะมีการเลือกตั้ง เพราะตนยืนอยู่บนโลกของความเป็นจริงว่า การจัดการเลือกตั้งไม่มีทางสำเร็จ จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า ถ้ามีปัญหาหน่วยเลือกตั้งเดียวก็เสียไปทั้งหมด ดังนั้น เมื่อความเห็นของ นปช. กับ กปปส. รวมทั้งเครือข่ายต่างๆ แตกต่างกัน และขยายไปสู่ความแตกแยก ถ้าตกลงกันได้ควรจะทำประชามติ โดย พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้เสนอจัดทำประชามติได้ โดยมีเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน แต่ไม่เกิน 120 วัน ที่จะลงไปทำความเข้าใจกับประชาชน
ส่วนข้อห่วงใยว่าในช่วงดังกล่าวจะมีความขัดแย้งหนักขึ้น ตนเห็นว่าแต่ละฝ่ายต้องอธิบายประชาชนในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อให้แต่ละฝ่ายไปทำความเข้าใจกับประชาชนได้ กปปส ไปภาคเหนือ ภาคอิสานได้ โดยไม่มีการขัดขวางจากพี่น้อง นปช. เช่นเดียว กับ นปช. ลงไปที่ภาคใต้ได้โดยไม่ถูก กปปส.ขัดขวาง เมื่อผลออกมาอย่างไรให้แต่ละฝ่ายเคารพ ตนพร้อมน้อมรับการตัดสินใจของประชาชน ซึ่งไม่ใช่ว่าทำประชามติแล้วพวกตนจะชนะเสมอไป ถ้าจำกันได้ ตอนทำประชามติ รัฐธรรมนูญ 2550 พวกตนก็แพ้ ตนเองไม่ได้เห็นด้วยตั้งแต่ต้น แต่เมื่อเสียงข้างมากลงมติให้รับก็ปฏิบัติตามกติกา
เมื่อเห็นแตกต่างควรเปิดให้ประชาชนตัดสิน เราได้พยายามลดช่องว่างลงมาแล้ว เราไม่ได้ต่อสู้ให้เลือกตั้งทันทีเพราะเลือกไปก็เสียเปล่า การลงประชามติจึงเป็นทางออก ข้อเสนออื่นๆ ในสังคมก็ควรจะถามประชาชนไปในทางเดียวกัน แม้จะต้องใช้งบประมาณสูงเท่ากับการเลือกตั้ง แต่ก็คุ้มค่ากับการไม่ต้องเสียเลือดเนื้อของประชาชนในบ้านเมือง ส่วนการบ้านข้ออื่นๆ ที่มีการมอบหมายมา จะมีการหารือก่อนจะไปตอบที่ประชุม โดยจะยึดหลักว่าต้องยืนอยู่บนหลักประชาธิปไตย
นายจตุพร ยังกล่าวถึง การจับอาวุธสงครามและพบบัตรการ์ด นปช.ในที่เกิดเหตุว่า ข้อเท็จจริงทางกฎหมายก็ขอให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา แต่ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติที่มีข่าวการจับอาวุธสงครามเรียงเป็นระบบ กังวลว่าจะกลายเป็นใบเบิกทางในการล้อมปราบประชาชนหรือไม่ ขอยืนยันว่า จุดยืน นปช. คือ ต่อสู้โดยสันติวิธี เพราะเราเชื่อว่า การเมืองต้องแก้ไขด้วยการเมือง ถ้าแก้ด้วยกองกำลังติดอาวุธจะไม่มีวันจบสิ้น ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้นายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. ตรวจสอบพื้นที่อย่างเข้มงวด และพร้อมให้มีการพิสูจน์ เพื่อไม่ให้เกิดวาทกรรม เรื่องชายชุดดำขึ้นมาอีก
"ขอยืนยันด้วยเกียรติยศลูกผู้ชาย เราไม่ใช่พวกหน้าไหว้หลังหลอก เราจะต่อสู้ด้วยสันติวิธี" ประธาน นปช. กล่าว