นักวิชาการตปท.ส่งจม.เปิดผนึก แสดงความวิตกฯรัฐประหาร
นักวิชาการด้านไทยศึกษา 26 คนจากอย่างน้อย 7 ประเทศ ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเนื้อหาดังนี้
23 พฤษภาคม 2557
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผู้บัญชาการทหารบก กองทัพไทย
เรียน พล.อ.ประยุทธ์
ในฐานะนักวิชาการที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศ พวกเราเขียนจดหมายฉบับนี้มาถึงท่านเพื่อแสดงความวิตกกังวลอย่างถึงที่สุด ต่อกรณีการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ โดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นี่เป็นการรัฐประหารที่สำเร็จครั้งที่ ๑๒ ในประวัติศาสตร์ไทย นับตั้งแต่ระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์สิ้นสุดลงในวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ เป็นต้นมา โดยในการยึดอำนาจทุกๆ ครั้ง ไม่มีครั้งใดเลยที่สามารถบรรลุจุดมุ่งหมายของคณะรัฐประหารได้ แต่กลับเป็นการไปทำลายพัฒนาการของหลักการนิติธรรม ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน พลเมืองผู้ซึ่งไม่เห็นด้วย กับการกระทำของคณะรัฐประหารตกอยู่ในความเสี่ยงอันตราย และถูกริบเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองไปจนสิ้น
ในประกาศของคสช.ฉบับที่ ๑/๒๕๕๗ ท่านได้ระบุว่า "ขอให้ประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบ ดำเนินวิถีชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปตามปกติ" แต่ท่านต้องเข้าใจว่าวิถีชีวิตปกติไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ด้วยการยึดอำนาจรัฐ การรัฐประหารมิสามารถเป็นมาตรวัดสันติภาพได้ เนื่องจากการ "ประหาร" รัฐนั้นคือความรุนแรงอย่างชัดแจ้ง ในช่วงวันที่ ๒๐ ถึง ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ในช่วงที่มีการประกาศ กฎอัยการศึกนั้น มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการห้ามการแสดงออก ซึ่งความคิดเห็นทางการเมือง และหลังจากที่มีการประกาศยึดอำนาจเป็นต้นมา สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ มีบรรยากาศแห่งความกลัวเกิดขึ้นกับผู้นำและผู้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวทางการเมืองทุกสี ลักษณาการที่ปิดหูปิดตามากขึ้นๆ เช่นนี้ ทำให้นานาประเทศหมดความเชื่อถือประเทศไทย และร่วมประณามการกระทำ อันไร้เหตุผลของคณะรัฐประหาร เพราะชุมชนนานาชาติไม่สามารถนิ่งเฉยต่อการกระทำเช่นนี้ได้
พวกเราขอเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติพาประเทศไทยกลับเข้าสู่การปกครองของรัฐบาลพลเรือนภายใต้รัฐธรรมนูญโดยทันที และพวกเราขอให้ท่านเสนอกรอบเวลาอันเป็นรูปธรรมให้ได้เร็วที่สุดว่าท่าน จะเริ่มใช้รัฐธรรมนูญเมื่อใด นอกจากนี้พวกเราขอเรียกร้องให้ศสช.ให้หลักประกันว่าจะไม่มีความรุนแรงและการปราบปรามเกิดกับประชาชนอีก ทั้งนี้การกลับไปสู่การปกครองของรัฐบาลพลเรือนภายใต้รัฐธรรมนูญ อันมีการเลือกตั้งและการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ของพลเมืองเท่านั้น ที่เป็นหนทางเดียวในการที่ประเทศไทย จะสามารถก้าวไปข้างหน้า เพื่อสานต่อพัฒนาการประชาธิปไตย เสริมสร้างหลักสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรมได้
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
1. Dr. Andrew Brown, Lecturer, University of New England
2. Dr. Pongpisoot Busbarat, Research Affiliate, University of Sydney
3. Dr. Pavin Chachavalpongpun, Associate Professor, Kyoto University
4. Dr. Nick Cheesman, Lecturer, Australian National University
5. Dr. Michael Connors, Associate Professor, University of Nottingham, Malaysia campus
6. Dr. Eli Elinoff, Postdoctoral Fellow, National University of Singapore
7. Dr. Jane M, Ferguson, Research Fellow, University of Sydney
8. Dr. Jim Glassman, Associate Professor, University of British Columbia
9. Dr. Tyrell Haberkorn, Fellow, Australian National University
10. Dr. Kevin Hewison, Sir Walter Murdoch Professor, Murdoch University
11. Dr. Philip Hirsch, Professor, University of Sydney
12. Dr. Adadol Ingawanij, Senior Research Fellow, University of Westminster
13. Dr. Soren Ivarsson, Assistant Professor, University of Copenhagen
14. Dr. Peter Jackson, Professor, Australian National University
15. Dr. Andrew Johnson, Assistant Professor, Yale-NUS College
16. Dr. Samson Lim, Singapore University of Technology and Design
17. Dr. Tamara Loos, Associate Professor, Cornell University
18. Dr. Mary Beth Mills, Professor, Colby College
19. Dr. Michael Montesano, Institute of Southeast Asian Studies
20. Dr. Claudio Sopranzetti, Postdoctoral Fellow, Oxford University
21. Dr. Ben Tausig, Associate Professor, Stony Brook University
22. Dr. James L. Taylor, Adjunct Associate Professor, The University of Adelaide,
23. Dr. Tubtim Tubtim, University of Sydney
24. Dr. Peter Vandergeest, Associate Professor, York University
25. Dr. Andrew Walker, Professor and Deputy Dean, Australian National University
26. Dr. Thongchai Winichakul, Professor, University of Wisconsin-Madison