ทหารเชียงรายปิดวิทยุชุมชนปลุกระดมมวลชนต้าน คสช.
พล.ต.พัฒนา มาตร์มงคล ผู้บังคับการจังหวัดทหารกเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.)เชิญสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทั้งสถานวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ในพื้นที่ จ.เชียงราย เข้าหารือพร้อมชี้แจงกรณีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศว่า จ.เชียงราย มีการใช้กฎอัยการศึกในบางอำเภอชายแดนมาได้กว่า 20 ปีแล้วเพราะเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีความจำเป็น กระทั่งวันที่ 20 พ.ค.มีการประกาศใช้อีกทั่วประเทศและต่อเนื่องจนถึงการเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองเป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 22 พ.ค. 2557 จึงถือว่าต่อเนื่องแต่กรณีการทำผิดกฎอัยการศึกจะยังมีผลเสมอ
พล.ต.พัฒนา กล่าวว่าปัจจุบัน กกล.รส.จทบ.ชร.ได้ร่วมกับฝ่ายปกครองและตำรวจ จัดฝึกซ้อมเพื่อดำเนินการกับผู้ไม่หวังดีและต่อต้าน คสช.โดยเป็นกำลังร่วมทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง โดยรูปแบบจัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่มีความชำนาญอยู่วงหน้าสุดและทหารอยู่วงนอกโดยมีทหารราบติดอาวุธคอยลาดตระเวณ กว้างล้างกองกำลังที่อาจจะซุ่มโจมตีหรืออยู่วงนอก ขณะที่ฝ่ายปกครองจะอำนวยความสะดวกเรื่องถนน โรงพยาบาล ช่วยเหลือกรณีมีการบาดเจ็บและเสียชีวิต ฯลฯ สำหรับการฝึกซ้อมจะดำเนินการอีกหลายครั้งในสัปดาห์นี้ดังนั้นประชาชนที่พบเห็นไม่ต้องตื่นตระหนก โดยช่วงเช้ามีการฝึกซ้อมที่ห้าแยกพ่อขุนและภาคบ่ายที่ศาลากลาง จ.เชียงราย
สถานการณ์ตั้งแต่ประกาศกฎอัยการศึกพบว่าประชาชนกว่า 90% ทราบและให้ความร่วมมือดี และวันที่ 22 พ.ค.มีการเตือนให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบเรื่องเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือเคอร์ฟิว 22.00-05.00 น.และวันที่ 23 พ.ค.มีคนทำผิดประมาณ 120 คน ล่าสุดคืนวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมายังพบการกระทำผิดอีก 120 คนอ้างว่ามีความจำเป็นแต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่เป็นจริง จึงมีการนำเข้าอบรมหน้าที่พลเมืองดี การมีวินัยและรักชาติ และความละอายต่อบาปจากนั้นปล่อยตัวไป แต่หากพบยังมีการกระทำผิดซ้ำก็จำเป็นต้องดำเนินคดีฟ้องศาลซึ่งเป็นอำนาจของ ผบ.ทบ.จะพิจารณาให้ไปสู่ศาลปกติหรือศาลทหาร ดังนั้นหากต้องขึ้นศาลทหารก็มีการพิจารณาศาลเดียวอีกหรือหากถึงที่สุดมีโทษจำคุกหรือปรับก็จะเสียประวัติได้จึงขอให้ประชาชนได้ทำตามเคอร์ฟิวดังกล่าวและไม่สามารถบอกได้ว่าจะยกเลิกเมื่อไหร่ กระนั้นเชื่อว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ว่าจะมีการออกต่อต้านหรือไม่ด้วย
พล.ต.พัฒนากล่าวถึงกรณีวิทยุชุมชนด้วยว่ายังมีการประกาศให้งดการออกอากาสไปก่อนในระยะนี้แต่ยังพบว่ามีหลายแห่งยังกระทำการฝ่าฝืน โดยล่าสุดได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสถานีวิทยุแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงของ ที่ได้ออกอากาศปลุกระดมมวลชนให้ออกมาต่อต้าน คสช. จึงทำการยึดเครื่องส่งกระจายเสียงและปิดสถานีแล้ว ส่วนสถานีอื่นๆ ได้มีการปิดแล้ว 3 แห่งเพราะออกอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนสถานีอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เปิดนั้นก็ขึ้นอยู่กับการประกาศของ คสช.ต่อไป โดยอาจจะแต่ละพื้นที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หากว่าพื้นที่เชียงรายถูกพุ่งเป้ามาก จะต้องเข้ากวาดล้างหนักต่อไป
ข้อมูลจากมติชนออนไลน์