คสช.ย้ำแผนงาน 3 ระยะก่อนถึง ปชต.ที่สมบูรณ์ - ยังไม่คุยเรื่องนายกฯ

วันนี้ (29 พ.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกรณีที่มีบางกลุ่มออกมาต่อต้านการยึดอำนาจ รวมทั้งทำลายสิ่งของและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และฝ่าฝืนคำสั่งซึ่งจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมย้ำว่าขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติจึงจำเป็นต้องดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ทุกส่วนเดินหน้าไปได้ ดังนั้น ประชาชนไม่ควรชุมนุมหรือจัดกิจกรรมใดๆ เกินกว่า 5 คนตามประกาศคำสั่งของคสช.

ส่วนกรณีของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ยังไม่มารายงานตัวตามคำสั่งของคสช. นั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการจับกุมตัว และสืบหาข้อเท็จจริงว่านายจารุพงศ์อยู่ที่ประเทศกัมพูชาตามที่เป็นข่าวหรือไม่ ส่วนการดำเนินคดีกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อยู่ในระหว่างการทำสำนวนเพื่อดำเนินการฟ้องคดี และเป็นไปตามขั้นตอนของศาลทหาร ซึ่งจะไม่มีการอุธรณ์ใดๆ นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมกรณีนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ที่มีคำสั่งให้มารายงานตัวว่าได้ติดต่อมายังคสช.แล้วถึงสาเหตุที่ไม่สามารถเดินทางมาตามกำหนดโดยจะทำเป็นหนังสือชี้แจงมาแทน

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกฯ กล่าวว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้ย้ำในระหว่างการหารือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ถึงแนวทางในการบริหารราชการใน 3 ระยะ คือระยะที่หนึ่งขับเคลื่อนการบริหารราชการตามปกติ ภายใต้กฎหมายพิเศษ, ระยะที่สอง สร้างภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมนำไปสู่ธรรมนูญปกครองชั่วคราว สภานิติบัญญัติ และระยะที่สามประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ พร้อมกำชับให้คณะทำงานของ คสช. ทำความเข้าใจกับหน่วยงานราชการต่างๆ โดยเฉพาะการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่าย ไม่ให้เสียวินัยการเงินการคลัง ไม่สร้างภาวะผูกพันกับรัฐบาลชุดใหม่ และไม่ก่อหนี้สาธารณะ

ทั้งนี้ยืนยันว่าคสช. ไม่มีนโยบายสั่งให้ระงับเฟสบุ๊ค หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่จะดำเนินการเฉพาะเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบัน หรือยุยงปั่นป่วนสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้น พร้อมเตือนสื่ออย่ารายงานข่าวให้เกิดความสับสน

อย่างไรก็ตาม พ.อ.วินธัย ย้ำว่ายังไม่มีการพูดคุยถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนตามที่หัวหน้าคสช. ได้ชี้แจงไว้ก่อนหน้านี้