"ถวิล"เบิกความคดีมาร์ค-สุเทพฟ้องดีเอสไอชี้นปช.ใช้ความรุนแรง

วันนี้ (2 มิ.ย.) ศาลอาญารัชดา นัดสืบพยานโจทก์ คดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ.ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอพร้อมพวกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ รวม 4 คนในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษสรุปสำนวนสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพในข้อหาก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าโดยเจตนาและเล็งเห็นผล ที่ศอฉ.มีคำสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553

ในวันนี้นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เดินทางมาศาล โดยมีนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นพยานขึ้นเบิกความถึงการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ตั้งแต่ช่วงปี 2552 ว่ากลุ่ม นปช. มีการประท้วงรัฐบาลด้วยการนำรถโดยสารและยางรถยนต์มาเผา ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้เข้าสลายการชุมนุม แต่ในส่วนที่มีผู้เสียชีวิต ไม่ได้เกิดจากรัฐบาลในขณะนั้น แต่เกิดจากกลุ่ม นปช. ปะทะกับชาวบ้านที่บริเวณแยกบ่อนไก่

ต่อมาปี 2553 ก็ได้มีการปลุกระดมตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ซึ่งระหว่างการชุมนุมศาลแพ่ง ก็ได้มีคำสั่งออกมาว่าการชุมนุมของกลุ่ม นปช. มิชอบด้วยกฎหมาย และขณะนั้นตนเองก็ดำรงตำแหน่งอยู่ในคณะทำงานของ ศอฉ. ก็ได้รับรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้ความรุนแรง อาทิ นำเลือดไปเทที่ทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงบ้านของนายอภิสิทธิ์ เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และใช้อาวุธสงคราม จึงแสดงให้เห็นว่าการชุมนุมมีการใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด