ช่อง 3 ร่อนจดหมายแจง กสท.ไม่มีสิทธิระงับออกอากาศ
สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 ร่อนจดหมายชี้แจง กสท. ไม่มีสิทธิระงับออกอากาศ ยันผู้ชมยังดูได้ปกติ ชี้ขอรับความคุ้มครองจากศาลปกครองแล้ว
จากกรณีที่ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ช่อง 3 ยื่นฟ้อง กสทช. กับพวกรวม 13 คน ต่อศาลปกครอง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ขอให้เพิกถอนประกาศ หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (มัสต์แครี่) และขอให้เพิกถอนมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีมติเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ที่เห็นชอบให้ช่อง 3 สิ้นสุดการทำหน้าที่โทรทัศน์ที่ให้บริการทั่วไปตามประกาศมัสต์แครี่ ทำให้ช่อง 3 ไม่สามารถ
ออกอากาศได้ในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งช่อง 3 ได้โต้แย้งมติดังกล่าวแล้ว แต่ได้รับการเพิกเฉย เป็นเหตุให้ช่อง 3 ได้รับความเสียหาย
โดยมูลเหตุการฟ้องร้องครั้งนี้ สืบเนื่องจากช่อง 3 ประมูลทีวีดิจิตอลได้แล้ว กลับไม่ยอมนำผังรายการในระบบอนาล็อกมาออกอากาศในระบบดิจิตอลช่องเอชดี โดยช่อง 3 ยังมีความประสงค์ที่จะออกอากาศในระบบอนาล็อกต่อไป แต่ก็อยากออกอากาศในระบบแอนะล๊อกที่ผ่านเกณฑ์ตามกฎมันสต์แครี่ ที่สามารถออกอากาศได้ทุกแพลตฟอร์ม เช่น ชมผ่านดาวเทียมหรือเคเบิลได้ แต่เนื่องจากในปัจจุบัน กฎมัสต์แครี่ ของ กสทช. ไม่คุ้มครองมัสต์แครี่ของช่อง 3 แบบแอนะล๊อกแล้ว แต่กฎมัสต์แครี่จะครอบคลุมทีวีดิจิตอลนั้น
ล่าสุด (6 มิถุนายน 2557) บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ได้ทำหนังสือชี้แจงว่า กสท. ไม่มีสิทธิระงับออกอากาศของช่อง 3 ทำให้ขณะนี้ผู้ชมยังสามารถดูได้ โดยช่อง 3 ได้ขอรับความคุ้มครองจากศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนมติของ กสทช. แล้ว โดยมีข้อความดังนี้
"ตามที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 4/2557 มีมติให้ช่อง 3 สิ้นสุดหน้าที่การเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป หรือ FREE TV นับแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2557 ส่งผลให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี หรือทีวีดาวเทียมไม่สามารถเผยแพร่สัญญาณโทรทัศน์ช่อง 3 ได้อีกต่อไปนั้น
บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3) ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานในการประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อเผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ช่อง 3 ให้บริการกิจการโทรทัศน์ตามที่ได้รับสิทธิจากสัญญาสัมปทานระหว่างช่อง 3 กับ อสมท. มาเป็นระยะเวลา 44 ปี โดยช่อง 3 มีสิทธิตามกฎหมายในการเผยแพร่รายการโทรทัศน์ FREE TV ผ่านทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบการใช้คลื่นความถี่ ระบบเคเบิล หรือระบบดาวเทียม โดยสิทธิตามสัญญาสัมปทานของช่อง 3 ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ด้วยเหตุดังกล่าว ช่อง 3 จึงขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า มติของ กสท. ข้างต้น ซึ่งมีผลเป็นการระงับสิทธิของช่อง 3 ในการเผยแพร่รายการผ่านทางระบบเคเบิล หรือระบบดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก เป็นคำสั่งของหน่วยงานราชการที่ขัดกับสิทธิจำนวนมากกว่า 20 ล้านคน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาในการรับสัญญาณโทรทัศน์ช่อง 3 ผ่านเสาอากาศ ไม่สามารถรับชมข้อมูลข่าวสารทางรายการโทรทัศน์ของช่อง 3 ผ่านทางระบบเสาอากาศ ระบบเคเบิล หรือระบบทีวี บอกรับสมาชิกได้อีกต่อไป
ช่อง 3 ได้คำนึงถึงความเสียหายในประการนี้เป็นอย่างดี จึงได้ขอรับความคุ้มครองจากศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนมติของ กสทช. อันเป็นมติที่ขัดแย้งต่อสิทธิของช่อง 3 ที่ได้รับการรับรองสิทธิตามสัญญาสัมปทานและกฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมถึงขอให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี หรือทีวีดาวเทียมยังคงสามารถเผยแพร่รายการโทรทัศน์ของช่อง 3 ผ่านทางระบบดาวเทียมและเคเบิลได้ต่อไป ซึ่งโดยท้ายที่สุด ผลคำพิพากษาของคดีดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสาธารณชนโดยทั่วไป ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอเรียนว่า บริษัทฯ มิได้ฟ้องร้องคดีเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งยกเลิกประกาศของ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (MUST CARRY) ดังนั้น ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทุกท่านยังคงสามารถให้บริการกิจการโทรทัศน์ได้ตามปกติ โดยไม่ได้รับผลกระทบ หรือความเสียหายแต่อย่างใด
ท้ายนี้ ช่อง 3 ขอเรียนว่า ช่อง 3 ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบโทรทัศน์สู่ระบบดิจิตอลเป็นอย่างดี แต่เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างเท่าเทียมกัน และเพื่อดำเนินการตามพันธกิจที่ได้มอบให้แก่ผู้รับชมรายการโทรทัศน์ทุกท่าน ช่อง 3 จึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการตามสัญญาสัมปทานเพื่อให้ประชาชนทุกท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง และให้คุณค่าสูงสุดต่อไป"