คดีสะเทือนขวัญข่มขืนบนรถไฟ น้องแก้ม ไม่ใช่เหยื่อรายแรก
คดีสะเทือนขวัญข่มขืนบนรถไฟ น้องแก้ม ไม่ใช่เหยื่อรายแรก ซ้ำรอยปี 2544 ลูกจ้างการรถไฟข่มขืนสาวปริญญาโท
ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ผู้คนในสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมากกับ น้องแก้ม เด็กสาววัย 13 ปี ที่โดนข่มขืนบนรถไฟก่อนจะถูกโยนร่างออกมานอกรถส่งผลให้เด็กสาวเสียชีวิตทันที ฆาตกรไม่ใช่ใครที่ไหนที่แท้เป็นฝีมือของไอ้โหดลูกจ้างของการรถไฟแห่งประเทศไทยนั่นเอง
คำถามทีตามมาคือแล้ว ผู้โดยสารที่เดินทางคนเดียวและเป็นผู้หญิงจะไว้ใครได้อย่างไร หวังจะพึ่งพนักงานให้อุ่นใจจะได้อีกหรือไม่ เพราะสืบเนืองจากคำให้การของฆาตกรที่รับสารภาพว่าคนลงมือว่าก่อนเกิดเหตุได้นั่งกินเหล้าและมีอารมณ์ทางเพศเมื่อเดินเห็น น้องแก้ม เดินอยู่ อีกหนึ่งคำถามที่ตามมาคือ พนักงานที่ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นทำไมถึงดื่มของมึนเมาได้อย่างไร
และ น้องแก้ม ไม่ใช่เหยื่อรายแรกที่ถูกข่มขืนบนรถไฟตู้นอน ย้อนไปเมื่อปี 2544 บนรถไฟขบวนสายสุไหงโกลก-กรุงเทพฯ สาวปริญญาโทเดินทางเพียงลำพังมุ่งหน้ามากรุงเทพฯ ระหว่างทางได้เกิดเหตุร้ายขึ้น เธอถูกไอ้หื่นในคราบของลูกจ้างชั่วคราวการรถไฟฉุดกระชากเธอลงจากเตียง ทำร้ายร่างกายจากนั้นได้ขืนใจเธอแบบที่เหยื่อสาวหมดหนทางสู้
วันนั้นเหยื่อสาวปริญญาโทสามารถเอาชีวิตรอดมาได้อย่างสะบักสะบอม และเดินหน้าแจ้งความเอาเรื่องอย่างถึงที่สุด ต่อมาผู้ต้องหาอดีตลูกจ้างชั่วคราวของการรถไฟได้ปฎิเสธและให้การว่าหญิงสาวสมยอมเอง แต่ศาลพิเคราะห์แล้วไม่มีทางเป็นไปได้ ซึ่งในปี 2551 ศาลฏีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ตัดสินให้จำคุก 9 ปี
กับสองคดีต่างกรรมต่างวาระแต่สถานที่จุดเกิดเหตุไม่ต่างกัน วันนี้สังคมได้ถามหาความปลอดภัยในการโดยสารรถไฟ โดยเฉพาะรถไฟตู้นอน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนเกิดความไม่เชื่อมั่นไปโดยปริยาย และต่อจากนี้ประชาชนคงจับตาดูมาตราการใหม่ที่เข้มงวดจากการรถไฟแห่งประเทศไทยว่าจะเด็ดขาดและจริงจังแค่ไหน จะเสือกระดาษหรือไม่??? ประชาชนผู้ใช้บริการต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง