โอละพ่อ! หมอยืนยันไม่มีขนสุนัขในปอดเด็ก 13

โอละพ่อ! หมอยืนยันไม่มีขนสุนัขในปอดเด็ก 13

โอละพ่อ! หมอยืนยันไม่มีขนสุนัขในปอดเด็ก 13
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่ น้องโบว์ ด.ญ.วัย 13 ปี ได้เสียชวิตด้วยอาการปอดติดเชื้ออย่างรุงแรง เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเกิดมาจากขนสุนัขที่เข้าไปปะปนอยู่เต็มช่องปอด เนื่องจากที่บ้านของน้องโบว์ มีการเลี้ยงสุนัขถึง 10 ตัว และเจ้าตัวได้คลุกคลีมาตั้งแต่อายุ 3 ปี ทำให้เริ่มมีความผิดปกติ มีผดผื่นขึ้นตามแขนและขา นับตั้งแต่เมื่อปี 2555 จนทางบ้านต้องตัดสินใจเอาสุนัขไปปล่อยทิ้ง 8 ตัว เหลือเอาไว้เพียง 2 ตัว เฉพาะตัวที่น้องโบว์รักเป็นพิเศษ ก่อนที่จะเริ่มมีอาการทรุดหนักเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และเสียชีวิตลงในที่สุด

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (17 ก.ค.) นพ.เลิศรัตน์ เอกสถาพรสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาโยง กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของ น้องโบว์ พบว่า ได้มาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาโยง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ด้วยอาการหายใจหอบหืด ก่อนจะมีการส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ตรัง ในเวลาต่อมา กระทั่งได้เสียชีวิตลง ซึ่งหัวหน้าแผนกกุมารเวช โรงพยาบาลตรัง ยืนยันว่า จากการตรวจสอบไม่พบขนสุนัขปะปนอยู่ในช่องปอดแม้แต่เส้นเดียว ขณะที่การเสียชีวิตนั้นก็เกิดมาจากอาการปอดติดเชื้ออย่างรุนแรง ดังนั้น กรณีของข่าวที่เกิดขึ้น จึงอาจจะเกิดมาจากความเข้าใจผิด

ด้านมารดาของน้องโบว์ อายุ 43 ปี กล่าวว่า หลังจากที่น้องโบว์ป่วยลง และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้ประมาณ 20 วัน ก็เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ซึ่งแพทย์ระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่า ติดเชื้อที่บริเวณปอด และไม่มีการยืนยันว่าพบขนสุนัขหรือขนแมวในปอดของลูกสาวแต่อย่างใด ทำให้ตนก็รู้สึกงงว่าที่ข่าวออกไปได้อย่างไร และในแต่ละวันจะมีคนมาสอบถามเรื่องนี้กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็ได้บอกทุกอย่างไปตามความจริง สำหรับที่บ้านของตนมีสุนัขจำนวนกว่า 10 ตัว แต่เลี้ยงกันตามธรรมชาติ โดยไม่ได้มีการดูแล และไม่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรค ซึ่ง น้องโบว์ ก็เป็นเด็กที่รักสัตว์ และจะอยู่เล่นคลุกคลีกับสุนัขทั้งหมดอยู่ตลอดเวลา ส่วนเชื้อราที่พบในปอดของลูกสาวนั้น ตนไม่แน่ใจว่า เป็นเชื้อราชนิดเดียวกันกับที่สุนัขเป็นหรือไม่ ซึ่งต้องรอให้ทางแพทย์หรือผู้เกี่ยวข้องออกมายืนยันอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook