อำนวยเร่งคดีหมิ่นสถาบันติดตามตัว โรส-จักรภพ เผยจ่อออกหมายจับคนอยู่เวทีเดียวกับ ตั้ง อาชีวะ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.ศ. ช่วยราชการบช.น. เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีหมิ่นสถาบันว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมเพื่อติดตามและสืบสวนสอบสวนคดีที่มีความผิดตามกฎหมายมาตรา 112 ซึ่งในบช.น. เป็นคดีค้างเก่าเป็นส่วนใหญ่ โดยได้ทำการเร่งรัดเพื่อติดตามคดีในภาพรวมใกล้หมดแล้ว โดยคดีลักษณะดังกล่าวค่อนข้างที่เกิดขึ้นน้อยลงแล้ว ภายใน 1-2 วัน จะขออนุมัติออกหมายจับเพิ่มเติมในบางคดีที่เกี่ยวข้อง คดีดังกล่าวที่เกิดขึ้นในบช.น.มีทั้งหมด 23 คดี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแล้ว 7 - 8 คดี และคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้เจ้าหน้าที่จะสามารถเร่งรัดดำเนินการให้เหลือ 2-3 คดีต่อไป

ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัว นางฉัตรวดี หรือโรส อมรพัฒน์ และนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันนั้น พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ตอนนี้ทั้ง 2 คดีนี้ พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนคดีของนางฉัตรวดี หรือโรส อมรพัฒน์ ได้ถูกออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว และนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ขณะนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมตัวแล้ว ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่บนเวทีในวันที่เกิดเหตุ เพื่อทำการออกหมายจับข้อหาร่วมกันกระทำความผิดตามมาตรา 112 ยังไม่รู้ชื่อ มีตัวตน ซึ่งก็ขออนุมัติศาลออกหมายจับตามภาพถ่ายได้ ทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีชื่อหรือไม่

เมื่อถามว่า ภายหลังออกหมายจับ นางฉัตรวดี หรือโรส อมรพัฒน์ แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน กล่าวว่า คดีของนนางฉัตรวดี หรือโรส อมรพัฒน์ เป็นหมายจับของกองปราบ โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ดูแลในภาพรวม ซึ่งนางฉัตรวดี หรือโรส อมรพัฒน์อยู่ที่ประเทศอังกฤษ กรณีการขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้น หลักเกณฑ์ผู้ต้องหามีความผิดตามกฎหมายของทั้ง2ประเทศ อัตราโทษเกินกว่า 1 ปี และเป็นความผิดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งก็ต้องดูว่าประเทศที่ผู้ต้องหาอยู่มีความผิดหรือไม่ เช่น นายจักภพ เพ็ญแข มีหมายจับข้อหาหมิ่นสถาบัน แต่พักอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ไม่มีกฎหมายดังกล่าว แต่นายจักภพ เพ็ญแขไปมีความผิดฐานอื่น เช่น สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งประเทศอังกฤษมีกฎหมายนี้ ก็สามารถขออนุมัติหมายจับได้ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้ว

เมื่อถามว่า กรณีที่มีนัดชุมนุมหน้าสถานทูตอิสราเอลในวันที่ 25 ก.ค. จะมีมาตรการดูแลความเรียบร้อยอย่างไร พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโนกล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูและสถานที่ บ้านพักเอกอัครราชทูต สถานทูต และตัวทูตด้วย โดยมีทหารร่วมดูแลเหตุการณ์ดังกล่าว และวางแผน คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนจะมีกลุ่มอื่นเข้ามาใช้สถานการณ์ดังกล่าวเพื่อสร้างความวุ่นวายทางการเมืองด้วยหรือไม่นั้น คาดว่าไม่น่าจะมี เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมที่คัดค้านมีจำนวนน้อยลง ตั้งแต่ที่ตนมารับตำแหน่งดูแลงานด้านความมั่นคงจนถึงขณะนี้ ไม่พบผู้ต่อต้านหรือคัดค้านแล้ว ยืนยันว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

เมื่อถามว่ากรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้าน คสช. โดยการชู3 นิ้ว เพื่อต่อต้านการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนั้น พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามเพื่อดูสถนการณ์ คาดว่าไม่น่าจะมีการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด