รวบสองแถวหื่น อนาจารนศ.สาว ญาติโวยบังคับสารภาพ

รวบสองแถวหื่น อนาจารนศ.สาว ญาติโวยบังคับสารภาพ

รวบสองแถวหื่น อนาจารนศ.สาว ญาติโวยบังคับสารภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 27 กรกฎาคม นายศตวรรษ แก้วสุโข อายุ 21 ปี พนักงานขับรถสองแถวประจำทางสาย 1269 วิ่งระหว่างฮอนด้า-หัวตะเข้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัมีนบุรี ในข้อหากระทำอนาจารพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารหน่วงเหนี่ยวและทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ถูกจับกุมได้ที่บ้านญาติในจังหวัดเพชรบูรณ์ หลังครอบครัวของน้องเจน (นามสมมติ) นักศึกษาหญิงอายุ 20 ปี ที่เป็นผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี

โดยผู้เสียหาย ร้องเรียนว่า ได้โดยสารรถสองแถวคันนี้มาคนเดียวเพื่อกลับบ้าน ช่วงเวลาประมาณ 21 นาฬิกา วันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจะมาลงที่ปากซอยฉลองกรุง 53 แต่ผู้ต้องหาได้ขับรถออกนอกเส้นทาง น้องเจนจึงพยายามกดกริ่งเพื่อลงรถ แต่ผู้ต้องหาไม่จอดรถ อีกทั้งพยายามเร่งความเร็วจนกระทั่งถึงเชิงสะพานคลองลำปลาเน่า ผู้เสียหายได้ตัดสินใจกระโดดลงจากรถ ผู้ต้องหาจึงวิ่งตามลงมา และจับตัวผลักเข้าไปในรถพร้อมขู่บังคับ จากนั้นมีพลเมืองดีขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี จึงช่วยเหลือไว้ได้ทัน ส่วนผู้ต้องหารีบขึ้นรถหลบหนี

ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ก่อนมาร้องเรียนกับตำรวจนครบาลลำผักชีให้ช่วยจับกุมผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปที่บ้านพักของญาติในจังหวัดเพชรบูรณ์และจัดชุดจับกุม

ด้านผู้ต้องหายังให้การวกวนให้การยอมรับว่าตั้งใจขับรถออกนอกเส้นทาง เพื่อหวังลวนลามผู้เสียหาย เนื่องด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่อ้างว่าไม่ได้ยินเสียงกริ่งดัง รวมทั้งไม่ได้ข่มขู่ว่าจะกระทำถึงชีวิต เบื้องต้น จากการตรวจสอบ พบผู้ต้องหามีประวัติ เสพยาบ้า และถูกจับกุมในพื้นที่นครบาลฉลองกรุง เมื่อปี 2554

ขณะที่ทางญาติผู้ต้องหาที่ได้ เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลลำผักชีในวันนี้ได้บอกกับสื่อมวลชนว่า ผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว แต่อาจเห็นว่าผู้เสียหายกระโดดลงมาจากรถแล้วพยายามลงมาช่วยเหลือ เนื่องจากคิดว่าบาดเจ็บ และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยญาตินำตัวนายศตวรรษมามอบตัวกับตำรวจเมื่อค่ำวานนี้ แต่ตำรวจพยายามบังคับให้มีการรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุ ส่วนที่ขับออกนอกเส้นทางนั้นเพื่อจะไปเติมน้ำมัน

อย่างไรก็ตามพลเมืองดีเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้เห็นผู้ต้องหาพยายามใช้กำลังกับผู้เสียหายหลังพยายามขัดขืน พร้อมเปิดเผยกับทีมข่าวว่า เส้นทางที่ผู้ต้องหาขับไปไม่มีปั๊มน้ำมันที่ใกล้เคียงอยู่เลย แต่บริเวณก่อนถึงที่เกิดเหตุมีปั๊มน้ำมันที่ใกล้กว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook