ไทยเฝ้าระวังอีโบลา ระบาดหนักแอฟริกา 672 ศพ
(31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้เชื้อไวรัส อีโบลา กำลังแพร่ระบาดหนักและรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแอฟริกาตะวันตกหลายประเทศ ถึงแม้ไทยจะมีความเสี่ยงต่อโรคอีโบล่านี้ต่ำมาก แต่ก็ประมาทไม่ได้ ทางกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ออกมาตราการป้องกันการระบาด เชื้ออีโบลาในประเทศไทย คือ
1. ให้กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศเฝ้าระวังผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนไทยที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค หากพบผู้มีอาการอยู่ในข่ายสงสัยให้รายงานทันที
2. ให้โรงพยาบาลทุกแห่งใช้มาตรการดูแลรักษา หากมีผู้ป่วยมีอาการในข่ายสงสัยในระดับเดียวกับโรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส เป็นต้น
3.ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เตรียมความพร้อมในการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการสำหรับไวรัสอีโบลา มีช่องทางการติดต่อโรคเหมือนโรคเอดส์ ไวรัสตับอักเสบ คือ ติดต่อจากคนสู่คนผ่านทางการรับหรือสัมผัสของเหลวจากร่างกายผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นเลือด น้ำลาย น้ำมูก เหงื่อ สารคัดหลั่งต่าง ๆ ตลอดจนเชื้ออสุจิ โดยยังไม่พบการติดต่อทางทางเดินหายใจ
โดยผู้ป่วยจะมีลักษณะ มีไข้สูงทันที อ่อนเพลียปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะมาก ตามด้วยอาการเจ็บคอ อาเจียน ท้องเสีย และมีผื่นนูนแดงขึ้นตามตัว ในรายที่อาการรุนแรงหรือในบางรายที่เสียชีวิตจะมีอาการเลือดออกง่าย โดยมักเกิดร่วมกับภาวะตับถูกทำลาย ไตวาย มีอาการทางระบบประสาทส่วนกลางและช็อก อวัยวะหลายระบบเสื่อมหน้าที่ และปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาเฉพาะ
ส่วนการป้องกันการติดเชื้อไวรัสอีโบลานั้น ขอให้หลีกเลี่ยงการกิน สัมผัส สัตว์ป่าที่นำเข้าโดยไม่ผ่านการตรวจโรคทั้งที่ป่วยหรือไม่ป่วย โดยเฉพาะสัตว์จำพวกลิง หรือค้างคาว หรืออาหารเมนูพิสดารที่ใช้สัตว์ป่า หรือสัตว์แปลก ๆ มาประกอบอาหาร รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารคัดหลั่ง เช่น เลือด หรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย ศพของผู้เสียชีวิต และหากมีความจำเป็นให้สวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกายและล้างมือบ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกเริ่มวิตกกังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาที่เพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตในแอฟริกาตะวันตกแล้ว 672 ราย
รายงานล่าสุด ผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้ออีโบลาที่ฮ่องกง ผลตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวแต่อย่างใด