พระพุทธะอิสระ ถูกวางยาในน้ำมังคุด
พระพุทธะอิสระ ถูกวางยาในน้ำมังคุด เผยรอดมาได้แทบหมดสภาพ รู้คนอยากให้ตายเยอะ
(6 ส.ค.) พระพุทธะอิสระโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) โดยระบุว่าตนเองถูกวางยาในน้ำมังคุด รอดมาได้แต่แทบหมดสภาพ นอกจากนี้ยังเขียนว่า ไม่ต้องห่วง ไม่มีครั้งที่สองแน่ ฉันจะไม่ยอมตายง่าย จนกว่าคนไทยทุกคนมีความสุข
ข้อความเต็มในเฟซบุุ๊ค
สิบนิ้วยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
ฉันไม่สบายตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันว่าฉันก็พยายามระมัดระวังแล้วนะ ยังเสียท่าให้คนวางยาเอาจนได้ มาในรูปผสมกับน้ำมังคุด พอฉันเข้าไปเท่านั้นแหละคุณเอ๋ย ยังกับโซดาไฟ มันร้อนตั้งแต่ลำคอจนถึงลำไส้ แต่ก็ยังทนนำปฏิบัติธรรมสวดมนต์จนเสร็จเพราะกลัวจะเสียฟอร์ม คืนนั้นทั้งคืนต้องหาวิธีขับถ่าย ดื่มน้ำหมดไป 2 โหล พยายามทำให้ขี้ ให้เยี่ยว ทั้งคืนแทบจะไม่ได้หลับ มันทรมานแสบร้อนกระเพาะลำไส้มากเท่ามาก ยังกับมีถ่านไฟแดงๆลุกโชนอยู่ในท้องฉะนั้น ต้องใช้วิชาทั้งหมดเท่าที่มีเอามาเป็นที่พึ่ง เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดทรมาน เช้าขึ้นยังตะกายไปบิณฑบาต จัดรายการ แต่สิ่งที่ตามมาทีนี้ไข้จับ ฉันอะไรนิดอะไรหน่อยก็ท้องอืดแน่น ต้องอาศัยสมุนไพรเคลือบกระเพาะที่ตนทำ เพื่อบรรเทาความแสบร้อน ตามด้วยยาเคลือบกระเพาะน้ำขาว ต้องฉันทุก 2 ชั่วโมง
วันที่สองของการโดนวางยา แม้มีชีวิตรอด แต่แทบหมดแรงหมดสภาพ รักษาฟอร์มเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามสังขาร ไม่สามารถเดินบิณฑบาตได้ ทั้งไข้ ทั้งแสบกระเพาะลำไส้ ฉันอะไรนิดหน่อยก็อืด คงต้องใช้เวลาอีกหลายวัน กว่ากระเพาะลำไส้จะกลับคืนเข้าที่เข้าทาง
ที่จริงมันก็น่าให้เขาวางยาหรอกนะ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาใครๆก็อยากให้ฉันตาย โดยเฉพาะพวกทุรชนคนพาล เพราะฉันประกาศชัดเจนว่า จะต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม และเผอิญไอ้คนไม่ถูกต้องไม่เที่ยงธรรมมันดันมีเต็มบ้านเต็มเมือง คนชั่วคนพาลพวกนี้จึงได้เดือดเนื้อร้อนใจ ต้องการจะกำจัดผู้ขัดขวางผลประโยชน์ให้หมดไป ซึ่งก็ต้องโทษตัวฉันเอง ที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับความชั่วร้ายใดๆ ชีวิตจึงตกอยู่ในการปองร้ายของคนพาลดังกล่าว
ไม่ต้องห่วง ไม่มีครั้งที่สองแน่ ฉันจะไม่ยอมตายง่าย จนกว่าคนไทยทุกคนมีความสุข ประเทศชาติชนะ พระเจ้าอยู่หัวมีความสุข และมหาปณิธานของพระโพธิญาณจะบรรลุดังวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้
วันนี้มีแขกมาเยี่ยมตอน 10 โมงเศษๆ นั่นคือคุณ สาทิต ปิตุเตชะ และคณะ คุยกันพอให้ระลึกถึง ก่อนจะกลับเลยฝากเตือนพรรคประชาธิปัตย์ไปว่า อย่าออกมาวิพากษ์ คสช.เขามากนัก ดูเขาไปก่อน แค่เขาเริ่มทำหรือพูดว่าจะทำ ก็พากันออกมาติติง ตำหนิ เช่นนี้ถือว่าไม่ควร สิ่งที่ควรคือต้องให้กำลังใจ ดูเขาทำ แต่ถ้าเห็นว่าอะไรไม่ถูกไม่ควร นั่นค่อยออกมาท้วงติง และก็ถือโอกาสพูดเตือนสติพรรคประชาธิปัตย์ไปว่า ความแตกต่างของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ อยู่ที่เวลาใครช่วยพรรคเพื่อไทย นายทักษิณเขาจะไม่ทอดทิ้ง จะเทคแคร์ดูแลอย่างดี ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้น พอสมประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่ง และเลิกเล่นการเมืองแบบดีแต่พูด พูดเก่งพูดดีอย่างเดียว เวลาทำกลับล้มเหลว ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริงอย่างที่อาสาเข้ามา อย่างนี้เลือกตั้งเมื่อไรก็แพ้อยู่วันยังค่ำ ให้แก้ไขเสีย เมื่อกล้าที่จะพูด ก็ต้องกล้าที่จะทำด้วย อย่าเอาแต่สร้างภาพ
พุทธะอิสระ
6 ส.ค. 57