ปวีณา ไม่เห็นด้วยอนุญาตให้อุ้มบุญในไทย
ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เผยไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้อุ้มบุญในไทย พร้อมชี้ 7 เดือนผ่าคลอดดูดสเตมเซลส์ทำเครื่องสำอางอันตราย
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวภายหลังการประชุมหารือร่วมกับ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการอุ้มบุญโดยผิดกฎหมายว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะอนุญาตให้มีการอุ้มบุญในประเทศไทย เพราะประเทศที่พัฒนาแล้วจะเข้ามาใช้บริการ รวมถึงสังคมไทยยังมีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ และเอาเปรียบเด็ก พร้อมฝากไปถึงหญิงที่อยู่ระหว่างการอุ้มบุญ หากเกิดปัญหาเอเจนซี่ที่จัดหาเด็กให้ทำการอุ้มบุญหลบหนี อย่าทำแท้ง และให้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีสถานที่เลี้ยงเด็กรองรับอยู่แล้ว
นอกจากนี้ นางปวีณา ยังกล่าวด้วยว่า มีผู้แจ้งข้อมูลกับทางมูลนิธิว่า การอุ้มบุญบางกรณีเมื่ออายุครรภ์ครบ 7 เดือน จะผ่าคลอดเด็กก่อนกำหนด เพื่อต้องการดูดเอาไขสันหลัง หรือสเตมเซลส์ นำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วย ซึ่งกรณีนี้ถือว่าไม่ปลอดภัย และเด็กอาจไม่รอดชีวิต
ด้าน พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะอุปนายกสมาคมแพทยสภา กล่าวว่า การอุ้มบุญถือว่าเป็นปัญหามานาน และในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายออกมารองรับ และร่าง พ.ร.บ.ก็ยังค้างอยู่ในสภา โดยตามระเบียบขอแพทยสภา จะทำการอุ้มบุญต้องมีปัญหาการมีบุตรยากและผ่านการรักษาจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญมาแล้ว โดยต้องมีปัญหาจากฝ่ายแม่หรือผู้หญิง ซึ่งต้องใช้ไข่ของแม่และอสุจิของฝ่ายพ่อ และต้องมีเงื่อนไขคือ คนที่จะอุ้มบุญได้ต้องเป็นเครือญาติ และจะต้องไม่มีการจ้างหรือทำในลักษณะเชิงพาณิชย์ ซึ่งหากพบถือว่ามีความผิด