ก.คลัง เตือน! เหรียญ 10 ปี 2533 หาเจอยาก ระวังถูกหลอก

ก.คลัง เตือน! เหรียญ 10 ปี 2533 หาเจอยาก ระวังถูกหลอก

ก.คลัง เตือน! เหรียญ 10 ปี 2533 หาเจอยาก ระวังถูกหลอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(11 ส.ค.) จากกรณีที่โลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการประกาศตามหา เหรียญ 10 บาท ที่ผลิตขึ้นในปี พ.ศ. 2533 ซึ่งมีเพียงจำนวน 100 เหรียญ โดยประกาศซื้อราคาเหรียญละ 100,000 บาท บวกค่านายหน้าอีก 40,000 บาท จนได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ล่าสุดพบกลุ่มมิจฉาชีพเกาะกระแสข่าว ดัดแปลงหรือตัดต่อภาพเหรียญ 10 บาทหายากเหรียญนี้ หลอกลวงประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เหรียญ 10 บาท ที่ผลิตออกมาในปี พ.ศ. 2533 นั้น เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะพบเจอได้เลย เนื่องจากเพราะชุดนี้ผลิตออกมาเพียงจำนวน 100 เหรียญ เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์เหรียญกษาปณ์ไทยที่ประเทศแคนาดา จึงเป็นเหรียญรุ่นที่ไม่มีการนำเอาออกมาใช้ในท้องตลาดหรือในชีวิตประจำวัน ส่วนเหรียญที่เหลือจากการนำไปแสดงที่ประเทศแคนาดา ประมาณ 30 เหรียญ ก็มีนักสะสมตามไปซื้อเก็บเอาไว้ทั้งหมด ตั้งแต่สมัยที่ผลิตออกมาใหม่ๆ แล้ว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ยังแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับกระแสข่าวและเกรงว่าจะเกิดมิจฉาชีพสวมรอยฉ้อโกงในกรณีดังกล่าว จึงได้ออกมายืนยันว่า เหรียญ 10 บาท ที่ผลิตออกมาในปี พ.ศ. 2533 นั้น ไม่สามารถพบเจอได้เลยในท้องตลาด แต่หากว่าพบเจอนั้น มีความเป็นไปได้ 2 อย่าง ได้แก่ เป็นเหรียญที่ผลิตในปี พ.ศ. 2537 ถูกนำไปดัดแปลง ตัดหางเลข ๗ ออกไปป็นเลข ๓ หรือ การใช้โปรแกรมโฟโต้ช้อปตัดต่อภาพให้ดูคล้ายเหรียญที่ผลิตในปี พ.ศ. 2533

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเฟซบุ๊ก "ร้านปาหนัน จิวเวลรี่" ที่ประกาศหาซื้อเหรียญ 10 บาทดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความว่า "ประกาศเตือน ขณะนี้มีมิจฉาชีพพยายามทำเหรียญออกมาเยอะแล้ว ผมเกรงว่าท่าจะตกเป็นเหยื่อในการหลอกขายในราคาถูก เพราะเหรียญนี้มีการหาซื้อมานานแล้ว ปลอมมาเป็น 20 ปีก็มี การหาเหรียญนี้ไม่มีตามท้องตลาดหรอกครับ จึงอยากให้ทุกท่านระวังให้มาก ผมมีมิจฉาชีพติดต่อเข้ามาเยอะ ถ่ายรูปส่งมาแล้วบอกว่าของแท้บ้าง (คงคิดว่าผมจะโอนตังค์ให้เลยมั้ง) มันยังต้องมีการตรวจสอบอีก...."

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังพบว่าที่เฟซบุ๊ก "ร้านปาหนัน จิวเวลรี่" พบประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น อีกทั้งยังมีการโพสต์รูปเหรียญ 10 บาท ปี 2533 มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงภาพตัดต่อและดัดแปลง ซึ่งทางเจ้าของเฟซบุ๊กก็ได้ออกมาอธิบายและชี้แจงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยกระแสข่าวดังกล่าวหากินแบบผิดๆ

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจากรายการ เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook