ปุ๊กกี้ ชุลีพร ช่วงชีวิตโรครุมเร้า เพราะพฤติกรรมตัวเอง

ปุ๊กกี้ ชุลีพร ช่วงชีวิตโรครุมเร้า เพราะพฤติกรรมตัวเอง

ปุ๊กกี้ ชุลีพร ช่วงชีวิตโรครุมเร้า เพราะพฤติกรรมตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปุ๊กกี้ ชุลีพร อดีตดาราสาวอารมณ์ดีที่คุ้นเคยกันดี เมื่อราวๆ 10 ปีก่อน เส้นทางชีวิตที่หันเหกับหลายโรครุมเร้า ทำให้ตนเองต้องปลีกตัวออกจากวงการ เข้าออกโรงพยาบาลเสมือนบ้านหลังที่ 2 อาการป่วยที่ทนทุกข์ทรมานอยู่เพียงลำพัง ผลจากพฤติกรรมตามใจปากและความประมาทในการใช้ชีวิตของตัวเอง ทำให้ ปุ๊กกี้ เป็นทุกข์ จนมีความคิดที่ไม่อยากจะตื่นขึ้นมาต่อสู้กับทุกสิ่งบนโลกใบหนี้

รายการ "ที่นี่หมอชิต" ทางช่อง 7 เชิญ ปุ๊กกี้ ชุลีพร ดวงรัตนตรัย อดีตดาราสาววัย 47 ปี ที่เคยทนทุกข์กับอาการป่วยหนัก จนไม่มีแรงทำอะไร ถึงขั้นใกล้จะเสียชีวิต เนื่องจากอาการไตวายเฉียบพลัน ปุ๊กกี้ ได้เล่าเรื่องราวชีวิตที่รุมเร้าไปด้วยโรคต่างๆ เหมือนฝันร้าย แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะผลจากการกระทำของตัวเธอเอง

ปุ๊กกี้ ชุลีพร ได้เล่าถึงประสบการณ์ชีวิตที่เต็มไปด้วยโรครุมเร้าให้ฟังว่า เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่อายุ 20 ปีเศษๆ รู้ว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวาน แต่ก็ไม่ได้รักษาและดูแลตัวเองเท่าไหร่ จึงลุกลามไปเป็นหลายโรครุมเร้า เช่น โรคความดัน โรคไต โลหิตจาง ปลายประสาทเสื่อม เป็นต้น อาการทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเวลาแค่ 10 ปีที่ผ่านมา

ปุ๊กกี้ ยังเล่าว่า เมื่อตอนอายุ 20 ปีเศษๆ เป็นคนเจ้าเนื้อและมั่นใจในตัวเอง น้ำหนักตัวประมาณ 90 กิโลกรัม มีพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติแบบที่ลืมตัวไปว่าตนเองเป็นโรคเบาหวาน มักจะทานอาหารวันละ 4-5 มื้อ โดยจะมีมื้อพิเศษในช่วงกลางดึก ไม่รู้สึกหิวก็จะต้องทาน ทานอาหารแคลอรี่สูง สามารถทานพิซซ่าถาดใหญ่ทั้งหมดได้เอง และอาหารทุกมื้อจะต้องปิดท้ายด้วยของหวานหรือผลไม้ มีพฤติกรรมแบบนี้จนกลายเป็นความเคยชิน

อดีตดาราสาวยอมรับว่า ตนเองเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง หากใครมาสั่งให้เปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ก็จะไม่ทำ จนกระทั่งอายุเข้าเลข 3 เริ่มมีสัญญาณเตือนของโรค สมองเริ่มคิดช้าลง มีอาการนอนไม่หลับ แต่ก็ยังไม่สนใจ จนเริ่มมีอาการเป็นโรคความดัน ร่างกายเริ่มเหลืองจากอาการโลหิตจาง และขาเริ่มไม่มีความรู้สึก น้ำมันเดือดกระเด็นใส่ยังไม่รู้สึก แพทย์บอกว่าเป็นโรคปลายประสาทอัตโนมัติเสื่อม เนื่องจากเบาหวานทำลายเส้นเลือดที่ปลายประสาท ก่อนที่สายตาจะเริ่มเป็นฝ้ามัว คล้ายเอาผ้ามาปิดหน้าไว้ เพราะน้ำตาลเข้าไปเกาะเส้นเลือดตาเต็มไปหมด

หลังจากเข้ารับการรักษาอาการทางตา ทั้งยิงเลเซอร์และฉีดยาเข้าตา ไม่ต่างไปจากชีวิตคนตาบอด วันหนึ่งปรากฏว่าเกิดอาการหูดับข้างเดียว หมอให้ยามารักษาอาการหูดับ แต่ยาดังกล่าวมีผลเข้าไปทำลายไต ช่วงชีวิตนั้นมีหลายโรครุมเร้ามา ตนเองรู้สึกว่ามันหนักมากๆ จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว แต่ตนไม่เคยคิดฆ่าตัวตายแต่อย่างใด แค่รู้สึกว่าตื่นนอนขึ้นมาทุกวันก็เป็นทุกข์ ขออย่าให้ตื่นขึ้นมาอีกเลยจะดีกว่า แต่ก็ยังคงตื่นมาสู้กับสารพัดโรคเช่นนี้ 3-4 ปี

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน สาวปุ๊กกี้ จะรักษาโรคทางตาและทางหูกลับมาได้ระดับหนึ่ง ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนเช่นเดิม แต่ก็ยังคงต่อสู้กับอีกหลายๆ โรคที่รุมเร้า โดยเฉพาะโรคไตวาย ที่ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการฟอกเลือดเป็นประจำ สัปดาห์ละ 3 วัน จนกลายเป็นกิจวัตร หากไม่ทำการฟอกเลือดก็จะเสียชีวิตในที่สุด

สุดท้าย ปุ๊กกี้ ชุลีพร บอกว่า ถ้าหากย้อนเวลากลับไปแก้ไขชีวิตได้ก็คงจะทำ เพราะอยากเป็นคนที่มีความคิดฉลาดคนหนึ่ง ยอมรับว่าเมื่อก่อนเหมือนคนโง่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นการกระทำที่โง่แต่ก็ยังกระทำอยู่ เอาแต่ความสุขชั่วครั้งชั่วคราว พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า อย่าประมาทกับชีวิตตัวเอง อย่าทำพฤติกรรมแบบเดียวกับที่ตนเองเคยทำ ขอดูแลตัวเองให้ดีที่สุด

ขอบคุณเนื้อหาจากรายการ ที่นี่หมอชิต ทางช่อง 7 สี

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ ปุ๊กกี้ ชุลีพร ช่วงชีวิตโรครุมเร้า เพราะพฤติกรรมตัวเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook