ทนายยืนยัน! พ่อญี่ปุ่นจ้างอุ้มบุญเด็กเยอะ ไว้ดูแลมรดก
จากกรณีมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมหรูย่านลาดพร้าว 130 ก่อนพบเด็กทารก 9 คน ที่เกิดจากแม้อุ้มบุญ โดยใช้น้ำเชื้อจากพ่อชาวญี่ปุ่นเพียงคนเดียว พร้อมมีพี่เลี้ยงดูแลเด็กอีก 9 คน รวมทั้งพบหญิงตั้งครรภ์อีก 1 คน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (16 ส.ค.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดีอุ้มบุญว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวนายแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการอุ้มบุญของนายชิเกตะ มิตซูโตกิ ชาวญี่ปุ่น อายุ 24 ปี รวมถึงติดตามเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการเรียกแม่อุ้มบุญทั้ง 11 คนมาสอบปากคำแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบพยานอีก 2 คน รวมทั้งสอบปากคำนายสำราญ ปาสาเนย์ ผู้มีชื่อเป็นเจ้าบ้านตามทะเบียนบ้าน ภายในคอนโดย่านลาดพร้าว 130 โดยได้รับการยืนยันว่านายสำราญ ได้ค่าจ้างเดือนละ 1 หมื่นบาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ในทะเบียนบ้านของนายสำราญมีเด็กอุ้มบุญที่มาจากน้ำเชื้อของนายชิเตกะประมาณ 21 คน
ขณะที่การสอบปากคำนายรัฐประทาน ตุลาธร ทนายความของชิเตะกะ ยืนยันว่า นายชิเตะกะต้องการมีบุตรไว้ดูแลมรดกเท่านั้น โดยนายรัฐประทานได้นำหลักฐานเอกสารยืนยัน และนำตัวอย่างเลือดของนายชิเตกะมาให้พนักงานสอบสวนนำไปตรวจสอบหาหลักฐานทางดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันว่านายชิเตกะเป็นพ่อของเด็กทั้ง 11 คน ที่พบอยู่ในประเทศไทย ซึ่งตรวจสอบพบว่ามี 9 คนที่อุ้มบุญ และเด็กแฝดที่พบใน รพ.รามคำแหง