อุปทานหมู่! นักเรียนชุมพรชัก-กรีดร้อง คล้ายผีเข้า
นักเรียนของโรงเรียนสวีวิทยา อ.สวี จ.ชุมพร นับสิบคน เกิดมีอาการอุปทานหมู่ คล้ายผีเข้า
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 29 สิงหาคม 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุนักเรียนของโรงเรียนสวีวิทยา อ.สวี จ.ชุมพร นับสิบคน เกิดมีอาการอุปทานหมู่ จึงรุดไปตรวจสอบ โดยในที่เกิดเหตุ พบนักเรียนจำนวนมากกำลังมุ่งดูเหตุการณ์นักเรียนหญิงและชาย นอนดิ้นพรวดพราด สลับกรีดร้องเสียงดัง อยู่บริเวณศาลพ่อตา ซึ่งตั้งอยู่ริมเขาภายในโรงเรียน โดยมีเพื่อนๆ นักเรียน อาจารย์ ช่วยกันจับ พร้อมนำน้ำมนต์ซึ่งโรยด้วยดอกดาวเรืองมาประพรมตัว
จากการสอบถามนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าว ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นมาก่อนหน้าเมื่อวันพุธที่ผ่านมาแล้วหนึ่งครั้ง และเมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ ก็ได้เกิดเหตุการณ์อย่างที่เห็นขึ้นมาอีก อยู่ๆ ขณะที่เข้าแถวทำกิจกรรมวันศุกร์ ก็ได้มีนักเรียนทั้งระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย ได้ล้มลงแน่นิ่งอยู่กองกับพื้น และเริ่มชักดิ้นชักงอ ดิ้นพรวดพราดไปมา และร้องกรีดเสียงลั่น จนอาจารย์และเพื่อนนักเรียนต้องช่วยกันจับตัวไว้ เพราะหวั่นว่าจะทำร้ายตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ
นักเรียนคนดังกล่าวยังกล่าวอีกว่า นักเรียนที่เกิดอาการเหมือนถูกผีเข้ารายหนึ่งได้เดินไปชี้ตัวนักเรียนกว่า 30 คน ซึ่งทุกคนที่มีพฤติกรรมเกเร และเสพสิ่งเสพติด มานั่งรวมตัวกัน ก่อนจะเปล่งเสียงให้ทุกคนเดินไปเอาสิ่งของที่ซุกซ่อนไว้มามอบให้กับอาจารย์ ซึ่งนักเรียนที่ถูกเรียกตัวต่างเดินไปอย่างพร้อมเพรียงมุ่งหน้าเดินขึ้นบนเขาใกล้กับศาลพ่อตา และลงมาพร้อมกับหม้อต้มน้ำกระท่อมสี่คูณร้อย ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักเรียนที่เฝ้าดูเหตุการณ์เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้นักเรียนที่มีลักษณะผีเข้า ต่างก็เดินมายังศาลพ่อตา และก็นอนชักดิ้นชัดงอ ร้องกรีดเสียงดังอย่างต่อเนื่อง ทางอาจารย์ได้ไปเชิญร่างทรงมายังศาลพ่อตา ก่อนทำพิธีทางไสยศาสตร์ เอาน้ำมนต์มาประพรมใส่นักเรียนที่ถูกผีเข้า แน่นิ่งไปตามๆกัน และได้เจราจาพอจับใจความได้ว่าไม่พอใจที่ปล่อยให้ศาลพ่อตารกสกปรก ไม่มีการทำพิธีเซ่นไหว้มานาน ซึ่งทางอาจารย์และนักเรียนพร้อมผู้ปกครองที่ทราบข่าว ได้มาขอขมา เร่งทำความสะอาดศาลพ่อตา และจะทำพิธีบางสรวงให้ในวันพรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมต่อว่า หลังจากที่ร่างทรงและอาจารย์และนักเรียน ช่วยกันทำสะอาดในเบื้องต้น นักเรียนที่เกิดอาการเหมือนถูกผีเข้า ก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นแต่อย่างใด