สั่งขัง"ร้อยโท"ทหารม้า-ลูกน้อง 30 วัน งดบำเหน็จ ส่งเข้าเรือนจำแล้ว
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีที่กลุ่มทหารบก สังกัดม.พัน.30 รอ. กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) จำนวน 12 นาย แต่งกายชุดเครื่องแบบลายพราง พร้อมอาวุธครบมือ รุมทำร้ายร่างกายทหารอากาศ 3 นาย ซึ่งทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูรักษาความปลอดภัยหรือการ์ดให้กับสถานบันเทิงคลองเพลง 1 จ.ปทุมธานีว่า ทางพล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผบ.พล.ร.2รอ. ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด กห. 0481.2 เรื่องสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ลงวันที่ 29 สองหาคท โดยรายละเอียดในหนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามที่คณะกรรมการได้ดำเนินการสรุปผลการสอบสวนกรณีที่ "ร้อยโททหารม้า" ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และกำลังพลในสังกัด จำนวน 11 ราย ได้ทะเลาะวิวาทกับผู้ดูแลร้านคลองเพลง1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม เวลา 01.30 น. เรียบร้อยแล้ว
โดยคณะกรรมการมีความเห็นพิจารณาลงทัณฑ์กำลังพลที่เกี่ยวข้อง โดยสั่งขัง "ร้อยโททหารม้า" เป็นเวลา 30 วันที่กองรักษาการณ์ ม.พัน 2 พล.ร.2รอ. และได้เสนอความผิดต่อพล.ท.ธีรชัย เพื่อขออำนาจลงทัณฑ์ ส่วนกำลังพลที่เหลือถูกจำขัง 30 วัน และ 45 วัน ที่มณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) โดยอำนาจผบ.พล.ร.2รอ. พร้อมงดบำเหน็จประจำปี 2558 ครึ่งปีแรกแก่กำลังพลทั้งหมด และให้ม.พัน30 พล.ร.2 รอ. ติดต่อประสานงานอำนวยความสะดวกทางคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอำนวยความสะดวกในการเยียวยาความเสียหายกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 รายพร้อมทั้งรายงานผลปฏิบัติให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในโลกโซเซียลมีเดีย โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ได้มีการเผยแพร่ภาพกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าเป็นพี่น้องกับกำลังพลของกองทัพอากาศที่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีการโพสต์ภาพกลุ่มชายจำนวนสิบกว่าคนในลักษณะยืนและนั่งอยู่รวมกัน พร้อมภาพจานใส่ข้าวและกระสุนปืนระบุข้อความท้าทาย "ร้อยโททหารม้า" กลับมาที่ร้านเกิดเหตุอีกครั้ง เนื่องจากไม่พอใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น
ด้านพล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศและกองทัพบกได้ทำความเข้าใจกันแล้ว และแต่ละฝ่ายได้มีการตักเตือนกำลังพลของตนเอง กรณีที่มีการโพสต์เฟซบุ๊กนั้นเชื่อว่าเป็นการโพสต์ก่อนที่จะมีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน แต่หลังจากนั้นก็ได้มีการเคลียร์ใจกัน ทั้งนี้การโพสต์อะไรต่างๆในเฟซบุ๊กนั้นกำกับดูแลยาก และไม่รู้ว่ามีคนอื่นมาผสมโรงหรือไม่ขอ ยืนยันว่าเมื่อมีการทำความเข้าใจกันแล้วจะไม่มีเหตุลุกลามบานปลายแน่นอน เมื่อขอโทษแล้วก็เข้าใจกันดี ผู้บังคับบัญชาก็ต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองด้วย