ตัวเมืองสุโขทัยน้ำลดแล้ว-ยังต้องเฝ้าระวังทุกจุดน้ำยม

สถานการณ์น้ำท่วม 5 อำเภอ ในจังหวัดสุโขทัยจากแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งตลอดแนวช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ล่าสุด (5 ก.ย.) ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีระดับน้ำลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว รวมทั้งศาลากลางจังหวัดและสถานที่ราชการอีกหลายแห่งจากวานนี้ (4 ก.ย.) ถูกน้ำท่วม 20-30 เซนติเมตร หลังจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานระดมกำลังนำกระสอบทรายและบิ๊กแบ็คปิดกั้น พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 11 เครื่องเร่งระบายตลอดเวลา ขณะที่บ้านบางสงฆ์ ม.7 ต.ปากแคว อ.เมือง ยังท่วมหนักถนนคันดินกั้นแม่น้ำยมทรุดตัวเพิ่มยาว 50 เมตร ทำให้บางจุดน้ำสูงกว่า 1 เมตร และขยายวงกว้างท่วมพื้นที่หมู่ 1 และ 6 ของ ต.ปากแคว รวมถึงบางส่วนของพื้นที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมือง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางการเกษตรนับพันไร่ ทางจังหวัดประกาศเตือนพื้นที่อื่นเก็บสิ่งของขึ้นบนที่สูงไว้ล่วงหน้าภายในวันนี้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีสถานศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลปสุโขทัย วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย วิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม และโรงพยาบาลสุโขทัยอาจได้รับผลกระทบน้ำท่วม ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำกระสอบทรายวางป้องกันไว้แล้ว

ส่วน อ.สวรรคโลก หน้าสถานีดับเพลิงสวรรคโลก แม่น้ำยมอยู่ที่ 10 เมตร และรักษาพื้นที่เขตเศรษฐกิจไว้ได้ ขณะที่ อ.ศรีสำโรง ต.วัดเกาะ ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของกลางดึก เนื่องจากมีน้ำจากจังหวัดแพร่ไหลมาสมทบ ทำให้น้ำขึ้นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังแม่น้ำยมทุกจุด 24 ชั่วโมง เนื่องจากมีปริมาณน้ำเต็ม และจังหวัดประกาศให้ 5 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (น้ำท่วม) ไปแล้ว ได้แก่ อ.เมือง ศรีสำโรง ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก และกงไกรลาส

ด้าน นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงการเฝ้าระวังสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยในช่วงนี้ที่เขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำเพิ่มว่า ขณะนี้ระดับน้ำใน 4 อำเภอ คือ อ.เสนา, บางบาล, ผักไห่ และพระนครศรีอยุธยาสูงขึ้น แต่เป็นเพียงระยะสั้นๆ โดย อ.เสนา ได้รับผลกระทบเพราะมีคลองบางหลวง ซึ่งเป็นคลองรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ไหลมาสู่แม่น้ำน้อยที่ ต.หัวเวียงของ อ.เสนา และที่ผ่านมาชุมชนสองฝั่งแม่น้ำน้อยทั้ง ต.หัวเวียง และ ต.บ้านกระทุ่ม จะถูกน้ำท่วมเมื่อเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำกว่า 1,000 ลบ.ม./วินาที แต่ปัจจุบันมีการระบายอยู่ที่กว่า 800 ลบ.ม./วินาที และจะมีการระบายเพิ่มขึ้นไปเป็นลำดับ คาดว่าสัปดาห์อาจได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน

ล่าสุด ชาวบ้านที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มและได้รับน้ำจาก ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เริ่มทยอยเก็บข้าวของขึ้นที่สูง เนื่องจากมีน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมใต้ถุนบ้านเรือนประชาชนแล้ว 15 เซนติเมตร โดย พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมคณะ มีกำหนดจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมชนริมฝั่งแม่น้ำน้อยที่ อ.เสนา ในวันนี้ (5 ก.ย.) เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำและร่วมวางแผนกับชลประทานในพื้นที่

ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท มีหนังสือเตือนสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฉบับที่ 2 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักชลประทานที่ 12 พยายามควบคุมปริมานน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา และบริหารจัดการน้ำตามศักยภาพที่เขื่อนจะรับได้ โดยไม่ให้มีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตร อย่างไรก็ตาม หากมีฝนตกหนัก อาจมีผลต่อการระบายน้ำ - สำนักข่าวไทย