หมออุ้มบุญดอดพบตร.กลางดึก ปัดทุกข้อหา

จากกรณีแม่อุ้มบุญ ตั้งท้องเด็กทารกให้กับนายชิเกตะ มิตซูโตกิ ชาวญี่ปุ่น ที่มาใช้สถานพยาบาล ย่านเพลินจิต จากนั้นตำรวจได้ออกหมายเรียก นพ.พิสิฐ ตันติวัฒนากุล เจ้าของคลินิก ออลไอวีเอฟ ย่านเพลินจิต มีกำหนดให้ปากคำวันที่ 6 ก.ย. หากไม่เดินทางมา ทางตำรวจจะต้องดำเนินการขออนุมัติออกหมายจับ ในวันที่ 8 ก.ย. หลังจากนั้นทนายความได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเลื่อนให้ปากคำของ นพ.พิสิฐ เหตุผลพ่อป่วย เป็นวันที่ 10 ก.ย.

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 22.00 น. นพ.พิสิฐ ได้เดินทางมาที่ สน.คลองตัน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมทั้งให้ปากคำแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ไม่ควบคุมและดูแลให้แพทย์ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในสถานพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม และ ประกอบกิจการและดำเนินสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการสอบปากคำใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวเป็นจำนวนมาก

โดย นพ.พิสิฐ เปิดเผยว่า เหตุผลที่มาตามหมายเรียกล่าช้า เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์มากที่สุด เพื่อใช้ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง ขณะเดียวกันคุณพ่อของตนก็ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งตนนั้นในฐานะที่เป็นลูกและเป็นแพทย์จึงอยากจะดูแลพ่ออย่างใกล้ชิด ตนยืนยันว่าจบการศึกษาด้านเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ จากออสเตรเลีย ร่วมทั้งเปิดให้บริการสถานพยาบาลออลไอวีเอฟ มีใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากทางด้านสูตินารีแพทย์ครบถ้วนทุกอย่าง จึงอยากจะขอความเห็นใจจากสังคม ส่วนด้านคดีก็มอบให้ทนายเป็นผู้รับผิดชอบ

ด้านนายรุ่งโรจน์ ดิจบรรจง ทนายความ กล่าวว่า ทางด้าน นพ.พิสิฐ นั้นได้เดินทางมาพร้อมตนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก พร้อมทั้งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ในส่วนของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถานพยาบาล รวมทั้งเอกสารสำคัญนั้นจะมายื่นต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ในภายหลัง โดยทีมทนายความได้เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อเพิกถอนข้อบังคับบางข้อของแพทยสภา ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฏหมาย