หลวงปู่พิม เกจิวัดดังชัยภูมิ ละสังขารแล้ว

หลวงปู่พิม เกจิวัดดังชัยภูมิ ละสังขารแล้ว

หลวงปู่พิม เกจิวัดดังชัยภูมิ ละสังขารแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดป่าเวฬุวัน บ้านท่าเริงรมย์ ต.ทุ่งพระ อ.คอนสา จ.ชัยภูมิ เนื่องจากแน่นไปด้วยลูกศิษย์และชาวบ้านที่เคารพนับถือ หลวงปู่ธนวัฒน์ สิริพิมโพ หรือ หลวงปู่พิม ที่ตกเป็นข่าวฮือฮา หลังประกาศละสังขารในวันนี้ (9 ก.ย.) เวลา 21.00 น. ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง

ตามรายงานระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. หลวงปู่พิม ได้เข้ากุฏิเพื่อทำวัตรเย็น จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. จึงเริ่มทำสมาธิและนอนภายในโลงที่จัดเตรียมเอาไว้ และไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปกุฏิอีก จนกว่าจะครบ 3 วัน ซึ่งตรงวันที่ 11 กันยายนนี้ ลูกศิษย์จะเข้าไปนำร่าง หลวงปู่พิม เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ทั้งนี้ หลวงปู่พิม เปิดเผยว่า การละสังขารครั้งนี้ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่เป็นการปฏิบัติธรรมและเจริญภาวนา ซึ่งนำไปสู่การละสังขาร

ทางด้านพระลูกวัดป่าเวฬุวัน เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจในการละสังขารครั้งนี้ ขณะนี้หลวงปู่ได้นอนอยู่ในโลงที่กุฏิ และทำการปิดฝาโลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ได้ไปสู่สงบแล้ว ส่วนข้อเท็จจริงหรือข้อครหาใดๆ อยากให้ญาติโยมมาติดตามดูในวันที่ 11 กันยายนที่จะถึงนี้ สำหรับบรรยากาศที่ วัดป่าเวฬุวัน ตลอดทั้งวันเต็มไปด้วยลูกศิษย์และชาวบ้านจากทั่วสารทิศที่ทราบข่าว จำนวนหลายพันคน แต่งกายชุดขาว ร่วมกันสวดมนต์ปฏิบัติธรรมระลึกถึงหลวงปู่พิมที่เคารพนับถือ ส่วนพื้นที่ทางขึ้นไปบริเวณกุฏิหลวงปู่พิม มีการกั้นพื้นที่และติดป้าย "ห้ามเข้า" เอาไว้อย่างชัดเจน (ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวทีนิวส์)

นางชนากานต์ ศรีสมบัติ บุตรสาวของหลวงปู่พิม ได้เดินทางมาร่วมพิธีประกาศละสังขารครั้งนี้ด้วย โดยเปิดเผยว่า เป็นเวลาที่หลวงพ่อครบกำหนดให้คำมั่นสัญญาต่อพญามัจจุราชแล้ว หลังเคยเสียชีวิตมาแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน ในปี 47 กลางถ้ำหลังป่าในวัด หมดลมหายไปนานและเกิดฟื้นขึ้นมาใหม่ ได้บอกกับคนใกล้ชิดมาตลอดว่ าขอเวลากลับมาเกิดใหม่ เพื่อสร้างวัดแห่งนี้ให้เสร็จและขอเร่งความเพียรก่อนที่จะหมดเวลาต้องละสังขารกลับไปไม่เกิน 9 ก.ย. 57

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้สั่งการให้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ชัยภูมิ หารือกับเจ้าคณะปกครองว่า การที่พระสงฆ์ออกมาประกาศละสังขารเข้าข่ายอวดอุตริมนุษยธรรมหรือไม่ มีนัยอะไรแอบแฝง ซึ่งโดยปกติแล้ว หากพระรูปใดจะละสังขารส่วนใหญ่ ก็จะไม่มีการป่าวประกาศ ออกสื่อมวลชนหรือให้คณะลูกศิษย์ได้รับทราบ ซึ่งจะจริงหรือไม่ต้องปล่อยให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการตามความเหมาะสม

ขณะที่ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้เปิดเผยว่า ในทางการแพทย์ถือว่าการเข้าไปนอนภาวนาในโลงที่ปิดแน่นเช่นนี้ถือเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าเมื่อเข้าไปนอนภาวนาในโลงแล้วไม่มีอากาศ ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร อย่างไรก็ต้องเสียชีวิต แต่เจตนาของเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวัน ถือเป็นการฆ่าตัวตาย หรือไม่คงไม่สามารถตอบได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รับรู้ว่าท่านจะเข้าไปนอนภาวนาในโลง รู้ว่าเข้าไปนอนอย่างไรก็ต้องเสียชีวิตแน่ แต่กลับไม่ช่วย ถือว่ามีความผิดทางอาญา คือ มาตรา 374 ที่ระบุว่า ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้ โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้ ( 10 ก.ย.) การเจราจาระหว่างทางวัดกับสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผลสำเร็จ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเปิดโลง เพื่อช่วยเหลือและนำตัว หลวงปู่พิม ออกมาได้ ขณะนี้ หลวงปู่พิม ยังไม่ได้ละสังขาร แต่มีอาการอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก โดยได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลคอนสาในเบื้องต้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook