แม่โอด! วิน จยย.ลวงลูกสาวสมองพิการข่มขืนใต้สะพาน
(10 ก.ย.) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้รับแจ้งร้องเรียนจาก นางสุพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี แม่ค้าย่านอ่อนนุช ระบุว่า ลูกสาวที่มีความผิดปกติทางสมองตั้งแต่เด็ก ถูกคนขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างข่มขืนกระทำชำเรามาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากเป็นผู้ป่วยทางสมอง มีพฤติกรรมหลงเชื่อคนอื่นง่าย
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้เดินทางเข้ามารับเรื่องร้องเรียนด้วยตัวเอง พร้อมกับได้ฟังเรื่องราวจาก นางสุพรรณ ซึ่งเล่าว่า น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) ลูกสาวเป็นผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางด้านสมอง มาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ แพทย์บอกเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทำให้ปัจจุบันลูกสาวอายุ 21 ปี มีอาการสมองช้า เรียนรู้ไม่ทันคนอื่น หลงเชื่อคนง่าย
นางสุพรรณ เปิดเผยว่า มีอาชีพขายข้าวแกงอยู่ย่านอ่อนนุช ลูกสาวจะมาช่วยขายบ้างเล็กๆ น้อยๆ กระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนกับสามีสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ จากลูกสาว รู้จักติดต่อกับ นายสัญญา พุ่มเจริญ อายุ 40 ปี คนขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณที่ตนขายข้าวแกง นายสัญญา มักจะโทรศัพท์หาลูกสาวตอนกลางคืนและขอให้ออกไปพบอยู่บ่อยครั้ง
นางสุพรรณ ยังเล่าต่ออีกว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนใกล้เก็บร้านเพื่อกลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากที่ขายของเพียงไม่กี่ซอย ตนจึงให้ลูกสาวนั่งวินฯ กลับบ้านไปก่อน ซึ่งลูกสาวได้โดยสารรถของนายสัญญาออกไป แต่อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา สามีได้โทรศัพท์มาบอกว่าลูกสาวเพิ่งกลับถึงบ้าน ตนจึงเค้นสอบถามกับลูกสาว จนทราบว่า นายสัญญา พาไปมีเพศสัมพันธ์ที่ใต้สะพานข้ามแยกคลองตัน อ้างว่าหลงรักลูกสาว เคยก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง มีการพูดจาหว่านล้อม ใช้ผ้าปิดตาและเทปปิดปากลูกสาว ก่อนจะลงมือก่อเหตุทุกครั้ง
ในเวลาต่อมา ตนได้เข้าแจ้งความกับ สน.พระโขนง ให้ดำเนินคดีกับ นายสัญญา ที่ก่อเหตุล่อลวงลูกสาวไปกระทำอนาจาร ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า นายสัญญา ยังคงกลับมาขับวินฯ เช่นเดิม กระทั่งทราบว่าเจ้าของวินมีความสนิทกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงเกรงว่าลูกสาวจะไม่ได้รับความธรรม
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น พ.ต.อ.ณรัชต์ ได้รับฟังเรื่องร้องเรียน พร้อมกับสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่เจ้าของคดีดังกล่าว ซึ่งระบุว่า ขณะนี้รอรวบรวมพยานหลักฐานและผลตรวจจากแพทย์ยืนยัน ไม่ได้ปล่อยปละคดีแต่อย่างใด ขณะที่ทางรมคุ้มครองสิทธิฯ พร้อมให้การช่วยเหลือ อีกทั้งจะพิจารณาว่า น.ส.เอ๋ เข้าข่ายเป็นเหยื่ออาชญากรรมหรือไม่ต่อไป