รวบ 5 ชายชุดดำ ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามช่วงชุมนุมนปช.ปี 53 เชื่อมโยง "เปิ้ล กริชสุดา"

ตำรวจรวบ 5 คนร้าย กลุ่มชายชุดดำ หลังก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม ยิงทหาร และประชาชน ช่วงขอคืนพื้นที่การชุมนุม เมื่อ 10 เมษายน ปี 2553 เร่งติดตามมาดำเนินคดีอีก 3 คน และพบเชื่อมโยง "เปิ้ล กริชสุดา"

วันที่ 11 กันยายน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. แถลงข่าวจับกุม กลุ่มชายชุดดำ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาฐานร่วมกันมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พร้อมพกพาไปในที่สาธารณะ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับทหารติดตามจับกุมได้ รวม 5 คน โดยมีรายชื่อ ได้แก่ นายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี นายปรีชา หรือ ไก่เตี้ย อยู่เย็น นายรณฤทธิ หรือ นะ สุริชา นายชำนาญ หรือ เล็ก ภาคีฉาย และ นางปุณิกา หรือ อร ชูศรี

หลังร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม ยิงและขว้างใส่เจ้าหน้าที่ทหารขณะปฎิบัติการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนตะนาว และพื้นที่ใกล้เคียง จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหาร และประชาชน ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต

โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่าร่วมกันก่อเหตุจริง โดยรู้จักกันที่สถานีวิทยุ เอฟเอ็ม 97.75 ก่อนร่วมกันวางแผนก่อเหตุ ที่บ้านริมน้ำ ถนนรามอินทรา โดยมี นายจักรรินทร์ หรือ เสธไก่ เรืองศักดิ์วิชิต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบก สระบุรี ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีเป็นผู้บงการจัดอาวุธให้

ถัดมา 2 วัน วันที่ 10 เมษายน 2553 กลุ่มผู้ต้องหา จึงได้ลงมือก่อเหตุ ใช้รถตู้สีขาว เป็นยานพาหนะ โดยนำรถตู้มาจอดบริเวณถนนตะนาว จากนั้นได้เดินเท้าไปยังสี่แยกคอกวัว และลงมือก่อเหตุ โดยไม่ได้ระบุเป้าหมายว่าจะยิงใคร และไม่ได้รับการฝึกอาวุธมาก่อน

ซึ่งขณะเกิดเหตุตำรวจสามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้ 1 คน พร้อมอาวุธปืน เอ็ม 79 แต่ผู้ชุมนุมได้เข้ามาช่วยเหลือ จนผู้ต้องหา สามารถหลบหนีไปได้ทั้งหมด

ด้านพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง ระบุ ว่า ยังมีผู้ต้องหาอีก 3 คน คือ นายจักรรินทร์ หรือ เสธไก่ เรืองศักดิ์วิชิต นายธนเดช หรือ ไก่รถตู้ เอกอภิวัชร์ และ นายวัฒนะโชค หรือโบ้ จีนปุ้ย อยู่ระหว่างการหลบหนี และพบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้มีส่วนพัวพันกับนางสาวกริชสุดา หรือเปิ้ล คุณะแสน ผู้ต้องหา ครอบครองอาวุธสงคราม ที่หลบหนี เนื่องจากพบหลักฐานว่านางสาวกริชสุดา โอนเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหา ส่วนรายละเอียดการจับกุมไม่สามารถเปิดเผยได้

ทั้งนี้ผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ พลเอกร่มเกล้า ธุวธรรม หรือ เสธ. เปา อดีตรองเสนาธิการ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ที่เสียชีวิตบริเวณสี่แยกคอกวัว วันเดียวกันนั้น ซึ่งเป็นผู้ต้องหากลุ่มอื่น ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวน

พร้อมเตรียมประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ เพื่อขอให้ดีเอสไอตั้งคณะกรรมการร่วมกับตำรวจ เนื่องจากสำนวนชายชุดดำ อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ

นอกจากนี้ พลตำรวจเอกสมยศ ระบุว่าเตรียมออกคำสั่ง ถึงบทลงโทษ เจ้าหน้าที่ตำรวจคนใด ที่ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับวิธีการสืบสวน จับกุมคนร้าย เพราะเป็นการเผยแพร่ข้อมูลให้คนร้ายรับรู่ และการเปิดเผยข้อมูลบางอย่างอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายด้วย