ฟังอีกมุม! คดีฆ่าฝรั่งเกาะเต่า ผู้ใหญ่วอ-น้องชายยันไม่ใช่มาเฟีย

(24 ก.ย.) กรณีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คน ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงไร้ความคืบหน้า หลังผู้ต้องสงสัยรายล่าสุดให้การกับตำรวจ ไม่พบส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ส่วนผลตรวจดีเอ็นเอก็ไม่ตรงกับที่พบในตัวผู้เสียชีวิต ขณะที่ฝ่ายที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นผู้มีอิทธิพลบนเกาะ ยืนยันผ่านสื่อชัดเจนว่าไม่จริงและไม่เกี่ยวข้องคดีนี้

สำนักข่าวไทย ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร หรือ ผู้ใหญ่วอ ผู้ใหญ่บ้านเกาะเต่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวน้องชายไปให้ปากคำเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ทั้งนี้ ผู้ใหญ่วอ ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับ นายฌอห์น แมคแอนนา เพื่อนของผู้เสียชีวิต ซึ่งบอกข้อมูลกับสื่อต่างประเทศไม่ตรงกับสิ่งที่เล่าให้ฟังหลังจากเกิดเหตุ

นายวรพันธ์ กล่าวถึงกรณี นายฌอห์น แมคแอนนา เพื่อนของผู้เสียชีวิต ว่า เคยได้เชิญตัวมาสอบถาม นายณอห์น บอกว่า ในคืนวันที่เกิดเหตุ เขาเมาสุรา นอนหลับไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งตื่นเช้ามาถึงทราบเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทางเราสังเกตเห็นว่า นายณอห์น มีแผลที่มือกับขา จึงได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่า เกิดจากรถจักรยานยนต์ล้ม เมื่อถามว่าเหตุเกิดที่ไหน นายณอห์น อ้างว่าจำไม่ได้เพราะเมา

นายวรพันธ์ ยังเล่าต่อว่า ได้ลองสอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง นายณอห์น กับ นายเดวิด ผู้เสียชีวิต ซึ่งระบุว่ารู้จักกันสมัยเรียนที่เมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ แต่ยังถามไม่ถึงไหน เจ้าหน้าที่ก็เชิญตัว นายณอห์น ไปตรวจดีเอ็นเอ และไม่โอกาสได้พูดคุยกันอีก ก่อนจะกลายเป็นข่าวที่ต่างประเทศ มีภาพของน้องชายกับตำรวจนายหนึ่งกลายเป็นผู้ต้องสงสัย กระทบไปถึงครอบครัวของตน รวมทั้งลูกชายที่ยังเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ จะกลับมาเกาะเต่าก็ตอนปิดเทอม จึงขอตำหนิสื่อที่ไม่วิเคราะห์ข้อเท็จจริงก่อน ทำให้ครอบครัววงตระกูลและภาคการท่องเที่ยวเสียหาย

ส่วนทางด้าน นายมนตรีวัฒน์ ตู้วิเชียร เจ้าของบังกะโลแห่งหนึ่งบนเกาะเต่า น้องชายของผู้ใหญ่วอ ที่เข้าให้ปากคำกับตำรวจเมื่อวานนี้ หลังต้องเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ได้เปิดเผยกับสื่อว่า ภาพที่ นายณอห์น นำไปลงเผยแพร่คือตนกับเพื่อนที่เป็นนายตำรวจภาค 8 ในคืนวันเกิดเหตุได้ช่วยกันลงพื้นที่ในตอนกลางคืน เพราะคืนวันเกิดเหตุได้พบ นายณอห์น อยู่ในสภาพเลือดเปรอะตามตัว เมื่อเรียกมาสอบถาม เจ้าตัวยืนยันว่านอนอยู่ห้อง ไม่ได้ออกไปไหน ก่อนที่ตนกับเพื่อนตำรวจจะกลายเป็นข่าวว่าเป็นผู้มีอิทธิพลบนเกาะ

อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจดีเอ็นเอของ นายมนตรีวัฒน์ ไม่ตรงกับดีเอ็นเอที่พบในตัวผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด แสดงว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ แม้ว่าภาพจากกล้องวงจรปิดผู้ที่วิ่งผ่านหน้ากล้องจะมีลักษณะคล้ายกับ นายมนตรีวัฒน์ ก็ตาม แต่เจ้าตัวให้การยืนยันว่าไม่ใช่