พ่อพิการโร่แจ้งความ ตลกดังตุ๋นเงินบริจาค 8 หมื่น

พ่อพิการโร่แจ้งความ ตลกดังตุ๋นเงินบริจาค 8 หมื่น

พ่อพิการโร่แจ้งความ ตลกดังตุ๋นเงินบริจาค 8 หมื่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีฮือฮาในสังคมออนไลน์ หลังนายเฉลียว ซ่อนกลิ่น อายุ 58 ปี ชาวอ่างทอง เป็นผู้พิการขาขาด 2 ข้าง ประกาศหาผู้ใจบุญรับดูแล น้องพลอย ลูกสาวอายุ 12 ปี เนื่องจากตัวเองอาจจะต้องติดคุก ในข้อหารับซื้อของโจร โดยหลังจากที่ข่าวแพร่ออกไปได้มีหลายหน่วยงานเข้ามายื่นมือช่วยเหลือ นอกจากนั้นยังมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือผ่านเข้าบัญชีธนาคารจำนวนมาก

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา นายปัญญา เพชรแก้ว หรือบัง เชิญยิ้ม ดาราตลกอายุ 37 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความ ดำเนินคดีกับผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งและนายเฉลียว กรณีร่วมกันหมิ่นประมาทตน โดยกล่าวหาว่า ตนได้ยักยอกถ่ายเทเงินบริจาคจำนวน 80,000 บาท จากยอดเงินบริจาคซึ่งอยู่ในบัญชีเงินฝากของ น้องพลอย บุตรสาวของนายเฉลียว เพื่อนำไปแจกจ่ายให้นักข่าวกลุ่มหนึ่งเพื่อเป็นค่าตอบแทนที่ได้นำเสนอข่าวให้จนมีผู้ช่วยเหลือ ซึ่งไม่เป็นความจริง

นายปัญญา ให้การต่อว่า หลังจากข่าวเกี่ยวกับลุงเฉลียวถูกนำเสนอออกไป ตนเป็นบุคคลแรกที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ จากนั้นประชาชนจึงทยอยบริจาคเงินเข้าบัญชีของนายเฉลียว 258,000 บาท โดยมีการแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่งจำนวน 90,000 บาท ไว้ใช้ประกันตัวเอง ส่วนที่สองให้นายเฉลียวกับลูกสาวใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 40,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 128,000 บาท เปิดเป็นชื่อของ ด.ญ.จุฑาทิพย์ เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาตามเจตนารมย์ของผู้บริจาค ซึ่งทุกขั้นตอนมีตำรวจ เจ้าหน้าที่ อบต. เป็นประจักษ์พยาน โดยยืนยันว่าเงินบริจาคทั้งหมดยังอยู่ครบ แต่ตนไม่ทราบว่านักข่าวคู่กรณีไปพูดคุยกับนายเฉลียวอย่างไร จึงมากล่าวหาว่ายักยอกเงินจำนวนดังกล่าวไปให้นักข่าว ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสองดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ก่อนจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำต่อไป

ล่าสุด (2 ต.ค.) นายเฉลียว ได้เดินทางด้วยรถคนพิการไปยัง สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อแจ้งความกล่าวหา นายปัญญา ดาราตลกชื่อดัง หลังเข้ามาหลอกลวงเงินสดจำนวน 8 หมื่นบาท ที่มีผู้ใจบุญบริจาคช่วยน้องพลอยลูกสาวตน โดยอ้างว่าจะนำเงินไปให้นักข่าว 80,000 บาท แต่สุดท้ายกลับมาแจ้งความว่าตนหมิ่นประมาท กล่าวหาว่านำเงินของตนไป และขู่อีกว่าจะมีนักข่าวเสนอข่าวที่ไม่ดีของตน

"ผมมาคิดดูแล้วว่าจะเสนออะไรก็เสนอไป เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องมาเอาเงินของลูกสาวผม ที่มีคนใจบุญบริจาคมา และกลับมาแจ้งความว่าไม่ได้เอาเงินไป หาว่าผมหมิ่นประมาทอีกด้วย ผมจึงต้องมาแจ้งความเอาเงินของผมคืน โดยก่อนที่ผมจะมาแจ้งความ ได้ไปที่ธนาคาร ทางธนาคารได้แนะนำผมให้ทางตำรวจมาขอดูกล้องวงจรปิด เพราะจะมี นาย ปัญญาอยู่ในภาพกล้องวงจรปิดของธนาคารด้วย ที่สำคัญผมไม่คิดเลยว่า หลังจากเกิดเรื่องที่ผมประกาศหาคนช่วยเหลือลูก นายปัญญาคนนี้ก็พยายามเข้ามาทำทีช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็มาหลอกต้มตุ๋นเงินผม ซึ่งหากมีโอกาส ผมอยากจะไปร้องเรียนยังสมาคมตลกด้วย"

ด้านนายกรรมมาธิการ จิตตะมาก ผอ.โรงเรียนวรดิษวิทยาประสูทน์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง กล่าวว่า นายเฉลียวมาหาตน เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ตนก็งงมาก เพราะเมื่อวานนี้นาย ป. ได้โทรศัพท์มาหาตน บอกจะเปิดบัญชีเงินฝากให้น้องพลอยกว่า 1 แสนบาท ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี จึงชวนครูไปด้วยอีกคน และได้นำเงินจำนวน 135,000 บาท เข้าบัญชีในชื่อของน้องพลอยเท่านั้น และจากที่ลุงเฉลียวเล่าว่า นาย ป. เอาไปอีก 8 หมื่นบาทนั้น ตนจึงได้โทรไปหานายปัญญา ซึ่งนายปัญญาบอกว่าจะเอาไว้เป็นค่าประกันอะไรสักอย่าง อย่างไรก็ตามตนอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกันมากกว่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า เมื่อคืนวานนี้ นายปัญญาได้มาแจ้งความกล่าวหาลุงเฉลียวและนักข่าวว่าหมิ่นประมาท กล่าวหาว่า นายปัญญานำเงินจากลุงไป แต่ที่วันนี้ลุงเฉลียวแจ้งความก็เป็นการดี เพื่อเป็นการยืนยันตามหลักฐานว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร เรื่องเงินที่ให้กัน ถึงไม่มีหลักฐาน แต่พยานหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด การเดินทางมารับลุง ก็น่าจะบ่งบอกว่ามีเจตนาอะไร ซึ่งทุกอย่างก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook